กรมชลฯ เตรียมของบไม่ต่ำกว่า 1 พันล้าน แก้แล้งตามโครงการตามพระราชดำริ เร่งสร้าง 3 อ่างเก็บน้ำให้กับชาวอำเภอจอมทอง และอำเภอฮอด
12 ก.พ. 63 : นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน ได้เดินทางมาประชุมและตรวจติดตามความก้าวหน้างานสำรวจ ออกแบบ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน 3 โครงการคือ อ่างเก็บน้ำแม่ปอน อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่, อ่างเก็บน้ำแม่ฮอด อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ และอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ป่าไผ่ อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) สำนักงานชลประทานที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายนิธิ วรมงคล ผู้อำนวยการส่วนแผนงาน นายอภิวัฒน์ ภูมิไธสง ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา นายณัฐวุฒิ นากสุก ผู้อำนวยการส่วนวิศวกรรม สำนักงานชลประทานที่ 1 นายอัฏฐวิชย์ นาควัชระ ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 1 พร้อมด้วยข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย
นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีโครงการพระราชดำริมากถึง 500 โครงการ แล้วเสร็จประมาณ 400 โครงการเศษ ปัจจุบันมีโครงการที่ได้ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและแล้วเสร็จอีก 3 แห่ง ได้แก่ 1.อ่างเก็บน้ำแม่ปอน อำเภอจอมทอง 2. อ่างเก็บน้ำแม่ฮอด อำเภอฮอด และ 3.อ่างเก็บน้ำห้วยแม่ป่าไผ่ อำเภอฮอด สามารถใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค เพื่อการเกษตร และมีบางส่วนที่จะใช้รักษาระบบนิเวศน์ และจะยังประโยชน์กับบริเวณพื้นที่ที่อยู่ข้างเคียงได้ด้วย ถือเป็นประโยชน์กับประชาชนในอำเภอจอมทอง และอำเภอฮอดจังหวัดเชียงใหม่
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้ง 3 โครงการ เป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลางในลุ่มน้ำปิงที่ได้ทำการคัดเลือกแล้วว่า มีความเหมาะสมในด้านวิศวกรรม สังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ ซึ่งกรมชลประทานได้ทำการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น แล้วเสร็จเมื่อ มิถุนายน2562 ต่อมากรมชลประทานได้ว่าจ้าง กิจการร่วมค้า ดับเบิ้ลยู เอฟ โอ ซึ่งประกอบด้วย บริษัท วิศวชาญ 2002 จำกัด, บริษัท ฟรอนเทียร์ เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแทนท์ส จำกัด และบริษัท องศา คอนซัลแตนท์ จำกัด เพื่อดำเนินการงานสำรวจ ออกแบบ ตามสัญญาเลขที่ จ.57/2562 (สพด.) ลงวันที่ 20 กันยายน 2562 เริ่มปฏิบัติงานวันที่ 15 ตุลาคม 2562 และสิ้นสุดสัญญาวันที่ 8 กันยายน 2563 รวมระยะเวลาดำเนินงาน 330 วัน นับตั้งแต่วันเริ่มปฏิบัติงาน โดยงบประมาณที่ใช้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทจากการก่อสร้างทั้งหมด 3 โครงการ
ทั้งนี้ เมื่อผ่านดำเนินการสำรวจ ออกแบบ สู่การก่อสร้างเป็นรูปธรรมแล้ว โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้ง 3 โครงการ จะเป็นแหล่งกักเก็บน้ำสำคัญทางการเกษตร สามารถส่งนำให้กับพื้นที่เพาะปลุกด้านท้ายอ่างเก็บน้ำได้ในทุกฤดูกาล เป็นแหล่งน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคของประชาชน สามารถพัฒนาเป็นแหล่งแพร่พันธ์และเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดได้ ทั้งช่วยบรรเทาอุทกภัยจากน้ำป่าไหลหลาก และที่สำคัญยังช่วยสร้างรายได้จากการเกษตรและอาชีพเสริม ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่โครงการและพื้นที่บริเวณใกล้เคียงต่อไป
เรื่องมาใหม่
- AIS ผนึก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจไซเบอร์เปิด “มาตรการระเบิดสะพานโจร” บุกรวบจีนเทา พร้อมเครื่องส่ง SMS ปลอม
- เชียงราย จัดกิจกรรมเสริมสร้างความเข้มแข็งระบบกลไกเครือข่ายทีมสหวิชาชีพด้านเด็กและเยาวชน
- (คลิป) ตำรวจแม่จัน เชียงราย จับสึกพระเมาเหล้าขอปัจจัย
- เจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอน อนุโมทนา “ปิดเทศกาลนมัสการพระธาตุดอยกองมู ( ลอยกระทงสวรรค์) ประจำปี 2567”
- “น้องโบว์ลิ่ง” คว้ารางวัลชนะเลิศการประกวดหนูน้อยนพมาศเมืองยวมใต้ ประจำปี 2567