ไม่รอด!! ตร.สันทราย จับหนุ่มอ้างเป็น “แพทย์ตำรวจ” รพ.ดารารัศมี และหนีเกณฑ์ทหาร

สุดท้ายก็ไม่รอด ตำรวจสันทราย รวบพนักงานร้านแว่นตา อ้างเป็นแพทย์ตำรวจ พร้อมเครื่องแบบ และมีหมายจับหนีทหารจากแม่ฮ่องสอน

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ฐาปนพงศ์ ชัยรังษี ผกก.สภ.สันทรายฯ, พ.ต.ท.พูนทรัพย์ รวมสุข รอง ผกก.สส.ฯ โดยเจ้าพนักงานตำรวจสถานีตำรวจภูธรสันทรายประกอบด้วย พ.ต.ต.กิตติพงษ์ เจริญสิริวัฒนกุล สว.สส.สภ.สันทราย , ร.ต.อ.สมภพ ทัพทอง รอง สว.สส.สภ.สันทราย พร้อมกับพวก ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา นายพฤษมงคล เฟื่องเพียร อายุ 24 ปี บ้านอยู่ ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

พร้อมของกลาง บัตรประจำตัวแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล ชื่อ ร.ต.ต.พฤษมงคล เฟื่องเพียร ตำแหน่ง ผู้บังคับหมวดการแพทย์ฉุกเฉินทางอากาศยาน (หัวหน้าหมวดแพทย์ฉุกเฉิน) ลงนามโดย พล.ต.ต.หญิง พิมพรรณ ทรัพย์ขำ ผู้บังคับการโรงพยาบาลดารารัศมี และ ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล จำนวน 1 ใบ, เสื้อเชิ๊ตสีขาวแขนสั้นแบบแพทย์ปักชื่อ ร.ต.ต.นพ.พฤษมงคล เฟื่องเพียร โรงพยาบาลตำรวจดารารัศมี แพทย์ จำนวน 1 ตัว, เสื้อคอกลมมีกระดุมสีขาวปักชื่อ ร.ต.ต.นพ.พฤษมงคล เฟื่องเพียร โรงพยาบาลตำรวจดารารัศมี แพทย์ จำนวน 1 ตัว, เสื้อเชิ๊ตสีดำแขนสั้นแบบซิบ ปักโลโก้ ตำรวจภูธรภาค 5 บริเวณอกด้านซ้าย จำนวน 1 ตัว, กางเกงขายาวสีกีแบบตำรวจ จำนวน 1 ตัว จับกุมในข้อกล่าวหา “ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม และไม่มีสิทธิใช้ยศ ตำแหน่งแต่ได้กระทำการเช่นนั้นเพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ”

ในการจับกุมครั้งนี้ ทางเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุม ได้รับแจ้งเหตุว่ามีผู้แอบอ้างตัวเป็นแพทย์ตำรวจ ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลดารารัศมี และมีบัตรประจำตัวชื่อ ร.ต.ต.พฤษมงคล เฟื่องเพียร จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าบุคคลดังกล่าวทำงานอยู่ที่ร้านแว่นตา MC ภายในร้านโฮมโปร สาขาสันทราย ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ จึงเดินทางไปตรวจตรวจสอบ ต่อมาตามวันเวลาที่เกิดเหตุ เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเดินทางไปถึงที่ร้านแว่นตา MC ที่เกิดเหตุ ได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้สอบถามถึง ร.ต.ต.พฤษมงคล เฟื่องเพียร ซึ่งผู้ต้องหาที่ทำงานอยู่ภายในร้านดังกล่าวได้แสดงตนและรับว่าคือตนเอง เมื่อสอบถามถึงบัตรประจำตัวผู้ต้องหาได้นำบัตรประตัวของกลางมาแสดงให้ชุดจับกุมดู ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าบัตรดังกล่าวมีลักษณะต้องสงสัยไม่เป็นไปตามรูปแบบของหน่วยงาน จึงได้สอบถามผู้ต้องหาถึงบัตรประจำตัวข้าราชการตำรวจอีกครั้ง ซึ่งผู้ต้องหารับว่าไม่ได้เป็นข้าราชการตำรวจและเป็นแพทย์จริง แต่ได้ทำการใช้คอมพิวเตอร์ปลอมแปลงบัตรประจำตัวขึ้นมาเอง และนำมาติดให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่าตนเองเป็นแพทย์ตำรวจทำงานที่โรงพยาบาลดารารัศมี

จากนั้นผู้ต้องหาได้ยินยอมและสมัครใจพาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไปตรวจค้นรถยนต์ส่วนตัวพบเสื้อผ้าตามเอกสารและหลักฐานประกอบคดีตามรายการที่ 1-4 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวให้ทราบตรวจยึดของกลางและควบคุมตัวมายังที่ทำการฝ่ายสืบสวน สภ.สันทราย เพื่อจัดทำบันทึกจับกุม สืบสวนขยายผล โดยผู้ต้องหารับว่าได้ทำการปลอมแปลงบัตรประจำตัวขึ้นมาเอง และนำมาติดในขณะทำงานที่ร้านแว่นที่เกิดเหตุ เพื่อให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่าเป็นแพทย์ตำรวจ โดยได้กระทำไปเพราะชอบอยากรับราชการตำรวจ และเคยสอบเข้าไปเรียนที่คณะแพทย์มหาวิทลัยมหิดลจริง แต่เรียนไม่จบ จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาเป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดแม่สะเรียงที่ จ.1/2564 ลงวันที่ 12 มกราคม 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระความผิดฐาน “เป็นทหารกองเกิน หลีกเลี่ยงหรือขัดขืนไม่มาให้คณะกรรมการตรวจเลือกทำการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ตามหมายเรียกของนายอำเภอ” จึงได้แจ้งให้ผุ้ต้องหารับทราบและจะได้ประสานไปยัง สภ.แม่สะเรียงทำการอายัดตัวผู้ต้องไว้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป