วันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 รศ.ศีลศิริ สง่าจิตร ผู้ปฏิบัติหน้าที่อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ขึ้นรับถ้วยรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 จากนายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จากการประกวดกระทงใหญ่ในเทศกาลยี่เป็งจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2563 ณ อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ซึ่งกระทงใหญ่ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จัดทำขึ้นภายใต้แนวคิด “อานิสงส์ผางประทีสบูชา พระญาฆาติกาพรหม” ที่บอกเล่าถึงตำนานแม่กาเผือก ผ่านการประดับตกแต่งรถกระทงใหญ่และการแสดงอย่างวิจิตรตระการตา โดยมีความเป็นมาของเรื่องราวดังนี้ ต้นปฐมกัป มีพญากาเผือกทํารังอยู่บนต้นไม้เดื่อ ไข่ออกมา 5 ฟอง วันหนึ่งขณะที่แม่กาออกหาอาหาร ลมพายุพัดไข่ทั้ง 5 ฟอง ไหลตกแม่น้ำไป เมื่อแม่กาเผือกกลับมาแล้วไม่พบลูกทั้ง 5 จึงออกค้นหาและเสียชีวิตไป
ไข่ทั้ง 5 ไหลเลาะน้ำไป มีแม่สัตว์ต่างๆ เก็บไข่ไปเลี้ยงคือแม่ไก่ แม่นาค แม่เต่า แม่โค และแม่ราชสีห์ ต่อมาไข่ทั้ง 5 ก็ฟักออกมาเป็นบุรุษทั้ง 5 และแม่สัตว์ทั้งหลายต่างก็เลี้ยงดูจนเติบใหญ่เมื่อมีอายุพอบวชได้แล้ว เพื่อเป็นการทดแทนคุณมารดาจึงออกบวชเป็นฤๅษี และแม่เลี้ยงทั้ง 5 ก็ได้อนุโมทนา พร้อมกับฝากชื่อเอาไว้
องค์ที่ 1 มีพระนามว่า พระกกุสันโธ เพราะตามนามแม่เลี้ยงเป็นไก่
องค์ที่ 2 มีพระนามว่า พระโกนาคมโน เพราะตามนามแม่เลี้ยงเป็นนาค
องค์ที่ 3 มีพระนามว่า พระกัสสโป เพราะตามนามแม่เลี้ยงเป็นเต่า
องค์ที่ 4 มีพระนามว่า พระโคตโม เพราะตามนามแม่เลี้ยงเป็นโค
องค์ที่ 5 มีพระนามว่า พระศรีอาริยเมตไตรโย เพราะตามนามแม่เลี้ยงเป็นราชสีห์
อยู่มาวันหนึ่งได้เหาะมาหาอาหารผลไม้ และบําเพ็ญเพียรธรรมที่ป่าดอยสิงคุตตระ ณ ใต้ต้นนิโครธ อันร่มเย็นด้วยกิ่งไม้สาขาใหญ่ ฤๅษีทั้ง 5 ได้มาพบกัน ณ ที่นี้โดยไม่ได้นัดหมาย จึงสอบถามถึงความเป็นมาของกันและกัน จนรู้ว่าแต่ละองค์ก็มีแต่แม่เลี้ยง ฤๅษีทั้ง 5 จึงร่วมกันตั้งสัจจะอธิษฐานขอให้ได้พบแม่บังเกิดเกล้า ด้วยอํานาจสัจจะอธิษฐานธรรมอันบริสุทธิ์ดังก้องไปถึงพรหมโลก ท้าวฆาติกามหาพรหม ซึ่งเดิมคือ แม่กาเผือก ทราบเหตุการณ์ทั้งหมดจึงจําแลงเพศเป็นรูปเดิม ขนขาวสวยงาม มาปรากฏตัวอยู่ข้างหน้าของฤๅษีทั้ง 5 เมื่อลูกฤๅษีได้ทราบเรื่องราวทั้งหมด ก็รู้สึกสลดสังเวชใจและสํานึกบุญคุณอันใหญ่หลวงของแม่กาเผือก จึงน้อมนมัสการผู้เป็นแม่ กราบขอสัญลักษณ์อนุสรณ์ผู้บังเกิดเกล้าไว้บูชา ได้มาเป็นฝ้ายเป็นรูปตีนกาสัญลักษณ์ของแม่กาเผือกให้แก่ฤๅษีทั้ง 5 ไว้ใช้เป็นไส้ประทีสจุดบูชาทุกวันพระ และต่อมาได้กลายเป็นประเพณีจุดประทีสตีนกาบูชาแม่กาเผือกในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน ยี่ (เหนือ) เป็นตํานานสืบไว้ตลอดกาลนาน
ด้วยตำนานการถวายผางประทีสปทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาจึงนำเสนอ รถกระทงประจำปี 2563 ภายใต้เพื่อบอกถึงความหมายของการบูชาผางประทีส ให้ถึงพร้อมซึ่งความสง่างามแนวคิด อานิสงส์ผางประทีสบูชาพระญาติฆากาพรหม ด้านศิลปะวัฒนธรรมผ่านศรัทธาของชาวล้านนาที่มีต่อบวรพระพุทธศาสนา สืบต่อมา
เรื่องมาใหม่
- (คลิป) เชียงรายจัดโครงการ “ปั้นเยาวชนคนมืออาชีพ” เสริมทักษะอาชีพในโรงเรียน
- เชียงราย ทหารพรานรวบสาวเทอดไทยขนยาบ้า กว่า 5 แสนเม็ด
- อุทยานฯ สาละวิน เตรียมแผนตั้ง 40 จุดเฝ้าระวัง จับมือชุมชนร่วมป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่า
- แม่ฮ่องสอน เปิดกิจกรรม Kick Off ร่วมใจป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละออง
- แม่ฮ่องสอน หารือ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง สรุป 5 แผนพัฒนาจังหวัดแม่ฮ่องสอน