วันจันทร์, 25 พฤศจิกายน 2567

(มีคลิป) คนพะเยา เฮ!! “ด่านบ้านฮวก” ฝันเป็นจริง ปธ. ผู้ตรวจการแผ่นดินมองทะลุมิติ “ศูนย์กลางโลจิสติกส์ ท่องเที่ยว”

Social Share

คนพะเยา เฮ!! “ด่านบ้านฮวก” ฝันเป็นจริง ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินมองทะลุมิติ “ศูนย์กลางโลจิสติกส์ ท่องเที่ยว” ใกล้รถไฟฟ้าจีน จับปูใส่กระโด้งชี้ทางสว่างยึด มติ ครม.ได้เจ้าภาพตัวจริงทำได้ทันที สำนักผู้ตรวจฯ รับหน้าเสื่อ ติดตาม เร่งรัด ส่วนกลางเดินหน้าทันที

ที่ห้องประชุมอุทยานแห่งชาติภูซาง อ.ภูซาง จ.พะเยา นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมคณะเดินทางมาร่วมประชุมหารือรับฟังข้อคิดเห็นและพัฒนาพื้นที่ด่านชายแดนบ้านฮวก โดย ว่าที่ ร.ต.ณรงค์ โรจนโสทร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมด้วย นายเทวา ปัญญาบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา และคณะ ตัวแทนสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย ) สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติจังหวัดพะเยา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูซาง ตัวแทนศุลกากรเชียงของ นายหัสนัย แก้วกุล ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน2 (เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน) ตัวแทนโยธาธิการและผังเมืองพะเยา และส่วนทีเกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม

ทั้งนี้ ด่านถาวรบ้านฮวก เดิมเป็นจุดผ่อนปรนชายแดนไทย-ลาว บ้านฮวก -เมืองคอบ สปป.ลาว ต่อมาได้ยกระดับเป็นด่านชายแดน ทำมาค้าขายกับเมืองคอบ แขวงไชยบุลี สปป.ลาว โดยมีภาคเอกชนนำโดยหอการค้า จ.พะเยา ประสานความร่วมมือกับจังหวัดพะเยา ผลักดันพัฒนาด่านชายแดนบ้านฮวกให้เป็นด่านสากล เพื่อเป็นช่องทางการค้าการลงทุน การท่องเที่ยว วัฒนธรรมประเพณี ในกรอบความร่วมมือ(GMS) อนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว พม่า กัมพูชา เวียดนาม และจีนตอนใต้ แต่การพัฒนาไม่มีความคืบหน้าเพราะขาดเจ้าภาพ ถึงกระนั้นยังมีความคืบหน้าด้วยดี เมื่อคราวประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.เชียงใหม่ ต้นปี 2561 คณะรัฐมนตรีได้มีมติยกระดับจุดผ่านแดนไทย-ลาวบ้านฮวก เป็นด่านชายแดนถาวรบ้านฮวก

 

ว่าที่ ร.ต.ณรงค์ โรจนโสทร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวต้อนรับคณะประทานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมแจงปัญหาอุปสรรคการพัฒนาด่านบ้านฮวก ว่า ในการขับเคลื่อนมีปัญหาความต้องการในพื้นที่หลายๆ ด้าน ทั้งด้านการจัดตั้งด่านถาวร การขอใช้พื้นที่การสร้างถนนเข้าด่าน รวมถึงขอใช้พื้นที่สนับสนุนรองรับด้านอื่นๆ ก็ยังไม่มั่นใจว่าใครจะเป็นเจ้าภาพในเรื่องนี้ หลังจากจังหวัดได้รับอนุญาตการใช้พื้นที่จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

นายสมศักดิ์ สุวรรณสจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวขอบคุณทุกท่านที่เสียสละมาร่วมหารือกันวันนี้ อยากจะขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนผ่านไปยังหน่วยงานต้นสังกัดให้ช่วยกันพัฒนาด่านชายแดนบ้านฮวกให้เป็นรูปธรรม ซึ่งตนเคยดำรงตำแหน่งนายอำเภอเชียงคำ จ.พะเยา เป็นผู้ว่าฯ จ.น่าน ที่นั่นมีด่านห้วยโก๋น ถ้าเทียบกันแล้วที่เหมาะต่อการพัฒนาคือด่านบ้านฮวก คนที่จะได้อนิสงฆ์ต่อการค้า ทั้ง พะเยา แพร่ ลำปาง เชียงใหม่ เชียงรายบางส่วน ดูแล้วด่านบ้านฮวกเหมาะที่จะส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาล มันจะเพิ่มมูลค่าด้านเศรษฐกิจ ด่านบ้านฮวกจะช่วยพลิก จ.พะเยา จากการพัฒนามิติเดียวด้านการเกษตร คือ ปลูกข้าว ช่วงหลังมาปลูกยางๆ ก็ไม่ได้ราคา ถ้าเราพัฒนาตรงนี้จะเป็นศูนย์กลางในการค้าและกลุ่มจังหวัดแถบนี้จะได้ประโยชน์ ไปจีนใกล้นิดเดียว โดยใช้เส้นทาง เมืองคอบ-บ่อแก้ว-อุดมไชย ถ้าพัฒนาถนนเสร็จเดินทางแป๊บเดียวไม่กี่ชั่วโมง การขนส่งสะดวกเพราะเป็นทางเลียบ

ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวต่อว่า ด่านบ้านฮวกจะเป็นจุดพลิกในเรื่องพัฒนาเศรษฐกิจของพะเยาและจังหวัดใกล้เคียงเรื่องการค้าระหว่างประเทศ ฉะนั้น ในมิตินี้อยากจะฝากทางผู้แทนสภาพัฒน์ฯ ลองดู แต่ประสบการณ์มองเห็นเลยว่าในแง่ โลจิสติกส์ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ตรงนี้นั่งเรือไปหลวงพระบางใช้เวลาน้อยกว่าเชียงราย มันเหมาะมากๆ ที่จะขับเคลื่อนในเรื่องนี้

“ พะเยามีความพยายามมาพอสมควร ณ วันนี้เรามีมติ ครม.ปี 2561 ยกระดับเป็นด่านชายแดนถาวร แสดงว่านโยบายเชิงรัฐบาลเห็นความสำคัญ สิ่งที่เดินมาน่าจะถูกทาง เพียงว่าอยากจะเร่งสปีด ซึ่งการพัฒนาด่านบริเวณนี้ต้องใช้พื้นที่อาจจะติดในพื้นที่อุทยานฯ อยากจะเรียนทางอุทยานฯ ว่าเข้าใจธรรมชาติของอุทยานฯ ต้นไม้ต้นเดียวก็อยากจะรักษาไว้ ตัดไปจะรู้สึกสูญเสียเพราะมีความผูกพันกัน แต่ตรงนี้อยากจะให้อุทยานฯ ได้มองในมิติตรงนี้ว่าพื้นที่บางส่วนต้องเสียสละอนุญาตให้เป็นที่ทำการของหน่วยงานต่างๆ พัฒนารองรับการลงทุนในระยะยาวมันช่วยสร้างงานสร้างรายได้ให้กับคนมากมาย น่าจะคุ้มกับพื้นที่ที่เสียไป เพราะมันจะเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ อยากจะให้ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ว่าพวกเราก่อให้เกิดการพัฒนาด่านชายแดนบ้านฮวกให้เติบไปไปวันข้างหน้า” นายสมศักดิ์ กล่าว

จากนั้น ที่ประชุมได้มีการหยิบยกปัญหาและข้อเสนอแนะต่างๆ มาหารือ สรุปคือ ตัวแทนสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 15 (เชียงราย) แจ้งว่า กรมอุทยานฯ ได้เพิกถอนพื้นที่ ขอใช้ประโยชน์ 28 ไร่แล้ว โดยขอให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ประสานกรมอุทยานฯ ส่งเจ้าหน้าที่ส่วนกลางออกมารังวัดปักหมุดพื้นที่ให้ชัดเจน ด้านตัวแทนศุลกากรเชียงของ ยืนยันว่า เมื่อ จ.พะเยา ส่งมอบพื้นที่ให้ศุลกากรก็พร้อมจะรับมาดำเนินการก่อสร้างอาคารด่าน ส่วนถนนระยะทาง 2 กม.จากสามแยกอนามัยถึงด่านชายแดนบ้านฮวก กรมอุทยานฯ กรมทางหลวงชนบท จะร่วมกันออกแบบถนนโดย จ.พะเยาเป็นผู้สนับสนุนบงบประมาณก่อสร้าง ที่ประชุมเห็นชอบเพื่อนำเข้าสู่การประชุมสรุปประเด็นปัญหาที่ศาลากลาง จ.พะเยาในวันรุ่งขึ้น จากนั้นคณะได้เดินทางผ่านด่านเมืองคอบ แขวงไชยบุลี สปป.ลาว ไปยังบ้านก้อนตื้น แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว เพื่อดูความคืบหน้าการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขง โดย สปป.ลาว ซึ่งเป็นการพัฒนาเส้นทางจากเมืองคอบไปยังแขวงบ่อแก้ว และ แขวงอุดมไชย เป็นจุดที่ทาง สปป.ลาวจะสร้างจุดขนส่งสินค้าของรถไฟความเร็วสูง ลาว-จีน ซึ่งการก่อสร้างเหลือเพียง 20% จะแล้วเสร็จ ซึ่งเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ด้านการค้า การท่องเที่ยวสำคัญเชื่อมโยงกับด่านชายแดนบ้านฮวก เสร็จแล้วคณะได้เดินทางกลับเข้าหารือกับเจ้าเมืองคอบ ณ ห้องประชุมอาคารสำนักงานเมืองคอบ ก่อนเดินทางกลับ จ.พะเยา

และที่ห้องประชุมภูกามยาว ชั้น5 ศาลากลาง จ.พะเยา คณะของประทานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ร่วมประชุมสรุปให้ความเห็นชอบตามที่ประชุมอุทยานแห่งชาติภูซางได้มีมติ โดยทางสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน รับจะประสานติดตามเร่งรัดเรื่องที่ทาง จ.พะเยา หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งให้ส่วนกลางพิจารณา เพื่อให้ขั้นตอนต่างๆ ดำเนินการอย่างรวดเร็วต่อไป

Cr. สุรพล ลัดลอย