วันอังคาร, 26 พฤศจิกายน 2567

แม่ฮ่องสอน วอนช่วยเหลือ หญิงวัย 66 ป่วยเบาหวาน เดินไม่ได้ สามี 76 ออกรับจ้างรายวันไม่เพียงพอดูแลครอบครัว

Social Share

วันที่ 14 ส.ค. 64 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีหญิงวัย 66 ปี ป่วยเบาหวาน พิการเดินไม่ได้ สามีวัย 76 ปี ต้องออกรับจ้างรายวัน งานหนักไม่สามารถทำได้เพราะอายุเยอะ และเจอผลกระทบจากวิกฤติโควิด งานหายาก อาศัยเบี้ยผู้สูงอายุไม่เพียงพอซื้ออาหารประทังชีวิต ซึ่งต่อมาจากการลงพื้นที่ตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 108 หมู่ 8 ต.เวียงเหนือ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ก็ได้พบกับ นางวงศ์เพ็ญ วันทอง อายุ 66 ปี กำลังนั่งอยู่บนบ้าน เพียงลำพัง ซึ่งลักษณะเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ยกพื้นสูง หลังเก่าทรุดโทรม สภาพภายในบ้านไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆ นอกจากตู้เย็นเก่าๆ 1 เครื่อง ข้าวของเครื่องใช้ ที่นอน มีสภาพเก่า ไม่มีแม้ตู้เสื้อผ้าใส่

จากการสอบถามนาง วงศ์เพ็ญ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้กับสามี เพียงสองคน ชื่อนาย นายสนิท ปุ๊ดฟุ่น อายุ 76 ปี โดยเป็นบ้านที่ทางญาติของสามีให้อยู่อาศัย เนื่องจากตนและสามีไม่มีบ้านเป็นของตนเอง ส่วนบุตรสาว 1 คน ได้ออกไปทำงานมีครอบครัวอยู่ที่ต่างจังหวัดนานแล้ว และไม่เคยได้กลับมาดูแลพ่อแม่ หรือส่งเสียเงินมาให้เลยเพราะลูกสาวเองก็มีครอบครัวให้ต้องดูแลรับผิดชอบ

นางวงศ์เพ็ญ เล่าต่อว่า ตนเริ่มป่วยด้วยโรคเบาหวานมานาน 5 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ยังพอเดินได้บ้างด้วยการใช้ไม้เท้าค้ำยันตัว แต่เมื่อ 2 เดือนก่อนตนเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มกลางบ้าน และสูญเสียความรู้สึกของขาทั้งสองข้าง ประกอบกับอาการป่วยด้วยโรคเบาหวานทำให้เกิดมีแผลเรื้อรัง ลุกลามเท้าทั้งสองข้างไม่ยอมหาย ทุกวันนี้ก็มีเจ้าหน้าที่สถานีอนามัยบ้านเวียงเหนือ ได้เดินทางมาช่วยดูแลล้างแผลให้ที่บ้าน เพราะตนไม่สามารถเดินไปเองได้ และสามีต้องออกไปรับจ้างทำงานรายวันช่วยชาวบ้านในหมู่บ้าน เพื่อหารายได้เสริมมาดูแลกัน พอช่วยประทังชีวิตไปได้เป็นบางวัน

ทุกวันนี้รายได้หลักของตนมาจาก เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยผู้พิการ รวม 1,400 บาท ส่วนสามีได้รับเบี้ยผู้สูงอายุ 700 บาท รวมแล้วครอบครัวมีรายได้เดือนละ 2,100 บาท และเงินจากการรับจ้างรายวันของสามี ซึ่งได้เป็นบางครั้ง เนื่องจากสถานการณ์โควิด และผลกระทบจากเศรษฐกิจ ประกอบกับอายุที่มากแล้วทำให้ไม่สามารถทำงานหนักได้ ทำให้ช่วงนี้มีงานบ้าง ไม่มีบ้าง บางวันไม่มีเงินเหลือซื้ออาหาร ก็ได้ไปขอขอที่ร้านค้าเพื่อนำข้าวของมาก่อนและจ่ายเงินให้ทีหลัง เพื่อให้ดำรงชีวิตอยู่ได้ ก่อนหน้านี้ก็ได้มีหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับ อบจ.เวียงเหนือ ได้เข้ามาช่วยเหลือสร้างห้องน้ำผู้พิการให้ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือ จำนวน 1,000 บาท และมอบรถจักรยานนสำหรับผู้พิการให้ จำนวน 1 คัน แต่เนื่องจากตนล้มและขาไม่มีแรง ป่วยเป็นโรคเบาหวานมีแผลเรื้อรัง ทำให้ไม่สามารถปั่นจักรยานได้ ส่วนรถวีลแชร์ที่ได้ยืมมาจากสถานีอนามัยบ้านเวียงเหนือ ตอนนี้ก็มีสภาพทรุดโทรมใช้งานไม่ได้ ทำให้ตนต้องเป็นภาระของสามีที่ต้องหางานทำเพียงลำพัง และไม่สามารถช่วยเหลือตนเองหรืออกไปจากบริเวณบ้านได้เลย จึงอยากจะขอความช่วยเหลือผ่านทางสื่อ วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือบริจาควีลแชร์มือสอง และข้าวสารอาหารแห้ง ช่วยประทังชีวิตด้วย