วันจันทร์, 23 ธันวาคม 2567

สนามเลือกตั้ง นายก อบจ.เมืองสามหมอกเข้มข้น สู้กันอย่างดุเดือด

Social Share

สนามเลือกตั้ง นายก อบจ.เมืองสามหมอกเข้มข้น เมื่อ นายกคนเก่าที่ครองตำแหน่งมาหลายสมัยถูกอดีตผู้สมัคร สส.พรรคประชาธิปัตย์ลงชิงชัย คาดคงมีการต่อสู้อย่างดุเดือด โดยวันแรกมีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภา อบจ.ถึง 40 ราย ส่วนลงสมัครนายก อบจ. มี 2 ราย

วันที่ 23 ธันวาคม 2567 เวลา 08.30 น. – 11.00 น. นายณัฐเศรษฐ์ ราชไชยา ผอ.สนง.กกต.จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เดินทางไปตรวจความพร้อม การเปิดรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ศาลาประชาคม จ.แม่ฮ่องสอน โดยทาง คณะกรรมการการเลือกตั้ง อบจ.ได้รายงานสรุปผลการรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.อบจ. และ นายก อบจ.แม่ฮ่องสอน ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็น 24 เขตเลือกตั้ง โดยมีสมาชิกเขตเลือกตั้งละ 1 คน ในทั้งหมด 7 อำเภอ มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 174,889 คน

ผู้ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น นายก อบจ.มีจำนวน 2 คนคือ 1.นายอัครเดช วันไชยธนวงศ์ อดีตนายก อบจ.หลายสมัย และ 2 นายดนุภัทร์ เชียงชุม ผู้สมัคร นายก.อบจ.แม่ฮ่องสอน สำหรับผู้สมัครสมาชิก อบจ. มีจำนวน 40 ราย ประกอบด้วย อ.เมืองแม่ฮ่องสอน 9 คน , อ.แม่สะเรียง 8 คน , อ.สบเมย 7 คน , อ.ปาย 5 คน , อ.แม่ลาน้อย 6 คน , อ.ขุนยวม 3 คน และ อ.ปางมะผ้า 2 คน

นายอัครเดช วันไชยธนวงศ์ เข้าสู่การเมืองโดยการลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแม่ฮ่องสอน สังกัดพรรคชาติไทย แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง ต่อมาได้รับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอนครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2549 แทนนายสุรสิทธิ์ ตรีทอง และได้รับเลือกตั้งเป็น นายก อบจ.3 สมัยติดต่อกัน แชมป์ 3 สมัย อย่าง นายอัครเดช วันไชยธนวงศ์ หมอดูไม่ใช่หมอเดาทำนายว่า ไม่พลาดสมัยที่ 4 แน่นอน ยังคงเป็นแชมป์ตลอดกาล

ส่วน นายดนุภัทร์ เชียงชุม เกิด 6 สิงหาคม พ.ศ. 2511 ชื่อเล่น เดช อดีตสมาชิกสภา อบจ.เขตพื้นที่ อ.ปาย และอดีต ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน เคยเป็นผู้สมัคร สส.เขต 1แม่ฮ่องสอน สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ผ่านอยู่อันดับ 3 และทราบว่าได้ย้ายจากพรรคประชาธิปัตย์ เข้าสังกัดพรรคประชาชน เพื่อเตรียมพร้อมลงสมัคร สส.ในนามพรรคประชาชน ในอนาคต แต่การชิมลางตัดสินใจลงสมัครชิง นายก อบจ.ครั้งนี้ จะผ่านอัครเดช วันไชยธนวงศ์ ได้หรือไม่ อยู่ที่ประชาชนตัดสิน

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล