วันจันทร์, 23 ธันวาคม 2567

(คลิป) รมว.ทส.ลงพื้นที่แก้ปัญหาไฟป่าเชียงใหม่ มั่นใจไม่มีการเผาเอางบและขอบคุณทุกคนที่ร่วมกันทำงานอย่างหนัก

Social Share

รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมมอบนโยบายให้ทั้ง 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ในการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เชื่อมั่นไม่มีการเผาเอางบ และขอบคุณทุกคนที่ได้ทุ่มเทกำลังในการทำงานอย่างเต็มที่

27 มี.ค. 63 : นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันขนาดเล็ก ในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน โดยมีนายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมประชุมผ่านระบบ Video Conference เพื่อติดตามสถานการณ์ไฟป่า 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน พร้อมรับฟังการแก้ปัญหาและอุปสรรคของการปฏิบัติหน้าที่ที่ผ่านมา

นายวราวุธ กล่าวว่า สิ่งสำคัญในการป้องกัน คือ การข่าว หรือการสื่อสารสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในหมู่บ้านของพื้นที่ที่รับผิดชอบ โดยได้ประสานขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ไปฝังตัวอยู่กับประชาชนในหมู่บ้านที่มีความเสี่ยง เพื่อย้ำการทำความเข้าใจและเฝ้าระวังในแต่ละหมู่บ้าน ทั้งการตรวจเช็คอุปกรณ์ที่ใช้ติดตัวเข้าป่า และเวลาเข้า-ออก เพื่อป้องกันการเกิดไฟป่าในพื้นที่ นอกจากนี้ยังได้ประสานกองทัพอากาศ นำอากาศยานไร้คนขับ UAV ประกอบกับกล้องจับความร้อน เพื่อเป็นการเพิ่มกำลังให้เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนอีกทางหนึ่ง โดยอากาศยานไร้คนขับ UAV บินได้ 6-8 กม. พร้อมทั้งกล้องจับความร้อน ที่สามารถส่งข้อมูลทำให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการดับไฟได้อย่างทันทวงที

รวมทั้งอาจจะชี้เบาะแสการจับกุมคนลักลอบเผาได้อีกด้วย อีกปัญหาที่ทั้ง 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ต้องพบในทุกปี คือ ปัญหาหมอกควันข้ามแดน ซึ่งขณะนี้กรมควบคุมมลพิษ ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการอาเซียน ขอความร่วมมือให้งดการเผา ซึ่งการดำเนินการจะเป็นไปตามขั้นตอนต่อไป เนื่องจากเป็นกิจการนอกประเทศ การทำงานในส่วนนี้จึงมีข้อจำกัดและแนวทางทำงานที่ไม่เหมือนกัน

เชื่อมั่นว่าข้าราชการกระทรวงทรัพย์จะไม่เผาเพื่อเอางบอย่างแน่นอน เมื่อเกิดเหตุการณ์ก็ต้องมาให้กำลังใจให้คำมั่นว่าเพื่อนข้าราชการทำงานกันสุดความสามารถ ปัจจุบันพื้นที่ป่าภาคเหนือ เสียหายไปแล้วรวมกว่า 8 ล้านไร่ จากทั้งหมด 33 ล้านไร่ เฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ เพลิงไหม้เสียหายไปแล้วกว่า 1,000 ไร่ เฉพาะพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย นอกจากนี้ก็อาจจะมีการนำกฎหมายมาบังคับใช้นั้น ก็อาจจะนำมาใช้ตรวจสอบอย่างเข้มงวดมากขึ้น หากพื้นที่ใดมีไฟหรือเผาซ้ำซาก การสำรวจของ คทช.จะเลื่อนออกไป บางคนอาจจะบอกไม่แฟร์ว่าอาจเป็นการกลั่นแกล้ง แต่ในฐานะเจ้าของพื้นที่ต้องช่วยเจ้าหน้าที่รัฐในการเฝ้าระวัง เจ้าหน้าที่มีจำนวนรจำกัด คนอยู่ป่าและชายขอบมีความสามารถมากกว่า

สำหรับการลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้ จุดประสงค์หลักคือมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้านอื่นๆ ที่ได้ทุ่มเทกำลังในการทำงานกันอย่างเต็มที่ และพร้อมสนับสนุนการช่วยเหลือในทุกๆด้าน ต้องขอบคุณพี่น้องชาวเชียงใหม่ที่ช่วยสนับสนุนและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเป็นอย่างดี