8 ก.ค. 63 : : ที่สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 6 เชียงใหม่ ตำบลหนองควาย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ได้เดินทางมาประชุมร่วมกับคณะทำงานขับเคลื่อนศึกษาระบบการผลิต การตลาด สินค้าลำไย ในพื้นที่ภาคเหนือ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน และตาก เพื่อหาแนวทางในการรักษาเสถียรภาพราคา และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสินค้าของประเทศไทย และสอบถามถึงปัญหาจากพี่น้องเกษตรกร เพื่อจะนำข้อเสนอของเกษตรกรส่งต่อยังรัฐบาล โดยมีกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ภาคเหนือกว่า 400 คน เดินทางมายื่นหนังสือและให้กำลังใจ
ในการประชุมกว่า 3 ชั่วโมง นายสมศักดิ์ ตาไชย ประธานที่ปรึกษาสภาอาชีพเกษตรกร กล่าวว่า ตามที่หนังสือคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุดที่ สผ 0017.01/358 ลงวันที่ 22 มกราคม 2563 และหนังสือกระทรวงพาณิชย์ ด่วนที่สุด ที่ พณ 0403/5284 ลงวันที่ 16 ธันวาคม 2562 สภาอาชีพเกษตรกร (สอก.) ได้รับแจ้งจากคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตเกษตรกรรมสภาผู้แทนราษฎรว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ ได้แจ้งเรื่องการดำเนินมาตรการชดเชยประกันรายได้ลำไย ชนิดเกรด AA ให้เสนอคณะกรรมการพัมนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน
ทางสภาอาชีพเกษตรกร ได้จัดทำโครงการประกันรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกลำไย ชนิดเกรด AA เพื่อให้เกษตรกรผู้ปลูกลำไยได้เข้าถึงนโยบายประกันรายได้ของรัฐบาลนี้ อย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม และมีรายได้พอเพียงต่อการดำรงชีพ เนื่องจากที่ผ่านมา การประกันรายได้ลำไยชนิดเกรด AA ไม่เคยมี ประกอบกับปีนี้ประสบปัญหาเรื่องวิกฤตโควิด-19 เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก แต่โชคดีที่ทางรัฐบาลได้เยียวยาให้เกษตรกรคนละ 15,000 บาท ช่วยต่อลมหายใจให้เกษตรกรได้ และที่ผ่านมาไม่เคยมีการประกันรายได้ลำไยในเกรด AA มาก่อน ซึ่งหากโครงการนี้ผ่านจะช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างมาก เพราะนอกจากไม่มีรายได้ในช่วงนี้แล้ว กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกลำไย ก็ยังคงได้รับผลกระทบเพราะไม่สามารถส่งออกลำไยไปยังต่างประเทศได้ เพราะยังคงคุมเข้มเรื่องมาตรการโควิด-19 และการขนส่งที่ยังไม่สะดวก โดยราคาขายลำไยชนิดเกรด AA ในปี 2562 กิโลกรัมละ 32 – 35 บาท โดยคาดว่าผลผลิตในปี 63 จะมีลำไยเกรด AA จำวน 417,000 ตัน
ปัจจุบันเกษตรกรผู้ปลูกลำไยใน 33 จังหวัด จำนวน 196,655 ครัวเรือน จำนวน 554,624 คนเข้าร่วมโครงการประกันรายได้ โดยจำนวนผลผลิตลำไยที่รับประกันรายได้ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ตัน และเข้าร่วมได้ครัวเรือนละ 1 ราย เว้นแต่แยกทำกินสามารถเข้าร่วมได้มากกว่า 1 ราย โดยเป้าหมายจะเปิดให้ขึ้นทะเบียนทะเบียนผู้ปลูกลำไยโดยกรมส่งเสริมการเกษตร ช่วงเดือน มิ.ย. – ส.ค. 63 จัดทำสัญญาประกันรายได้ตั้งแต่ 1 ส.ค. – 30 ก.ย. 63 ดังนั้น กรณีรัฐบาลมีนโยบายประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกลำไยกิโลกรัมละ 40 บาท รัฐบาลจะจ่ายเงินชดเชยเข้ามาในโครงการไม่เกินกิโลกรัมละ 8 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 3,340,800,000 บาท เพื่อช่วยเหลือให้เกษตรกรผู้ปลูกลำไย ได้รับราคาลำไยที่สูงขึ้นและเป็นธรรม เป็นการใช้กลไกตลาดในการสร้างเสถียรภาพพราคาในระยะยาวและมีความยั่งยืน ลดภาระงบประมาณค่าใช้จ่ายของรัฐบาลในการช่วยเหลือเกษตรกร เป็นการเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19
นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จากการรับฟังปัญหาของพี่น้องเกษตรกรและทางสภาอาชีพเกษตรกร ก็พบว่า อยากให้มีการประกันรายได้ลำไยเกรด AA ให้ได้ราคาที่ 40 บาท เพราะราคาในปี 62 ที่ผ่านมา ราคาจะอยู่ที่ 32 – 35 บาท และที่ผ่านมายังไม่เคยมีการประกันราคาในเกรด AA มาก่อน นอกจากนี้ยังพบว่ายังมีปัญหาอื่นๆ ด้านการส่งออก และราคาลำไยที่ตกต่ำ รวมถึงปัญหาด้านรายได้ของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโรคไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด ซึ่งปัญหาต่างๆ เหล่านี้ ตนได้รวบรวมข้อมูลไว้ทั้งหมดแล้ว หลังจากนี้ก็จะนำเสนอต่อท่านรัฐมนตรีให้ทราบ และจะได้ดำเนินการเข้า ครม. หรือดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรในด้านต่างๆ ต่อไป
เรื่องมาใหม่
- นพค.36 สนภ.3 นทพ. เปิดจุดบริการประชาชนและนักท่องเที่ยว “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568
- แม่ฮ่องสอน ชวนนั่งเรือชมแม่น้ำปาย ไปเยี่ยมชมชุมชนท่องเที่ยวปลอดภัย ที่บ้านห้วยปูแกง
- จังหวัดแม่ฮ่องสอนเปิดศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568
- จัดหางานแม่ฮ่องสอนจัดโครงการให้ความรู้ด้านกฎหมายและการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวให้แก่นายจ้าง/สถานประกอบการ 3 อำเภอโซนใต้
- รู้ทันโรค สสอ.แม่สะเรียง แนะให้ความรู้ป้องกันอหิวาตกโรค เน้นย้ำ กินร้อนช้อนกลาง ดูแลสุขาภิบาล และสุขอนามัยที่ดี