อย่าลังเลฉีดวัคซีน ความยากลำบาก 20 ชั่วโมง การเดินทางไปของเจ้าหน้าที่ในแม่ฮ่องสอน

20 ชั่วโมงกับการเดินทางไปกลับ ตรวจเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงบ้านโกแประ ความลำบากของเจ้าหน้าที่ พื้นที่ห่างไกล วอนอย่าลังเลฉีดวัคซีนป้องกันการเสียชีวิต หลังพบ ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ไม่มีประวัติการฉีดวัคซีน

วันที่ 9 ตุลาคม 2564 การเดินทางเข้าพื้นที่หมู่บ้านชายแดน ถ่ายทอดถึงความยากลำบากของเจ้าหน้าที่ด่านเหน้า รพ.สต.ทุ่งแล้ง ที่ต้องเข้าพื้นที่ตรวจเชิงรุกหมู่บ้านโกแปร่ ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ผ่านเฟสบุค พิชญดล เผือกพาคำ เจ้าหน้าที่ รพ.สต.ทุ่งแล้ง ที่ได้โพสข้อความ #ตามติดชีวิตหมออนามัย “ทีมคัดกรองโควิดเชิงรุก ทีมทุ่งแล้งแว้นSwab” หมู่บ้านซึ่งอยู่พื้นที่ห่างไกลติดชายแดนไทย – เมียนมาร์ การเดินทางยากลำบาก หมู่บ้านที่ถนน ไฟฟ้า คลื่นโทรศัพท์ เข้าไม่ถึง แต่โควิดไปถึง โดยทีมเจ้าหน้าที่สำนักงานสุขภาพชุมชนชายแดน รพ.สต.บ้านทุ่งแล้ง 5 คน ต้องใช้รถจักรยานยนต์คนละคันพร้อมอุปกรณ์ติดท้ายรถ เข้าพื้นที่ระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาเดินทางขึ้นเขาลัดเลาะลงตามลำห้วยจากอำเภอแม่สะเรียงถึงหมู่บ้านโกแประ 10 ชั่วโมง เพื่อคัดกรองกลุ่มเสี่ยง นักเรียน ศกร.ตชด.โกแประและราษฏรในพื้นที่บ้านโกแปร่ จำนวน 88 คน และ ใช้เวลาเดินทางกลับอีก 10 ชั่วโมง

ขณะที่ เพจ สสจ.แม่ฮ่องสอน เผย บุคลากรของหน่วยงานในสังกัด ทำงานอย่างหนัก เพื่อคุมสถานการณ์โควิดระบาด ขอประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะกลุ่ม 608 โดย เพจเฟซบุ๊ก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน เผยแพร่ข้อมูลว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด 19 ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม วันนี้ (8ต.ค.2564) จำนวน 61 ราย เป็นสถิติใหม่สูงสุด (NEW HIGH) นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด พบผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 940 ราย นอกจากนี้ ยังพบผู้เสียชีวิตรวมทั้งหมด 10 ราย ซึ่งอาจมีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างไปยังหลายพื้นที่ ทั้งนี้ บุคลากรของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้พยายามทำงานอย่างหนักเพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด การให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วย รวมทั้งการให้บริการฉีดวัคซีนทั้งเชิงรับและเชิงรุกในชุมชนห่างไกลอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้พี่น้องประชาชนชาวแม่ฮ่องสอนทุกพื้นที่ได้รับการดูแลรักษา การได้รับวัคซีนป้องกันโรคที่เหมาะสมตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข

สรุป สถานการณ์ ณ วันที่ 8 ตุลาคม 2564 จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกเมษายน จำนวน 940 ราย เป็นเพศชาย 450 ราย และเพศหญิง 490 ราย เสียชีวิต 10 ราย (1.07%) รักษาหายแล้ว 602 ราย (64.04%) ยังอยู่ระหว่างรักษา 328 ราย (34.89%) มีอาการเล็กน้อย 301 ราย ปานกลาง 22 ราย และรุนแรง5 ราย รักษาอยู่ที่ รพ ศรีสังวาลย์ 10 ราย รพ.แม่สะเรียง 20 ราย รพ.ปาย 25 ราย รพ.สบเมย 31 ราย รพ.แม่ลาน้อย 5 ราย รพ.สนาม 112 ราย และรักษาในศูนย์แยกกักโรคชุมชน (C) 125 ราย สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจังหวัดมีแนวโน้มกระจายเป็นวงกว้างมากขึ้น และเริ่ม มีผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงโดยเฉพาะ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์มารักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น อาจ ส่งผลกระทบในหลายด้านโดยเฉพาะระบบบริการสาธารณสุข ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนทุกคนควรรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่โรงพยาบาล หรือ หน่วยบริการฉีดวัคซีน เชิงรุกในพื้นที่เพื่อเป็นการป้องกันโรคล์ดความรุนแรงของโรค และลดการเสียชีวิต