ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ แถลงพบผู้ป่วยเชื้อโควิดรายใหม่อีก 1 ราย เฝ้าระวังเสี่ยงสูงอีก 6 ราย พร้อมสั่งปิดสถานบันเทิง ร้านนวดสปา ถนนคนเดินทั้งจังหวัด เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งแพร่เชื้อ ยอมรับเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงไม่แพ้กรุงเทพฯ และเทียบเท่ากับหลายประเทศทั่วโลก
18 มี.ค. 63 : ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานแถลงข่าวถึงมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤติการณ์จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์วรเชษฐ เต๋ชะรัก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พันเอก อโณทัย ชัยมงคล รอง ผบ.มทบ.ที่ 33 นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายวโรดม ปิฏกานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ และประธานสมาคมร้านอาหารและสถานบันเทิงจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงข่าว
นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า หลังจากมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) เป็นโรคติดต่ออันตราย เพื่อให้สามารถใช้ข้อกำหนดตาม พ.ร.บ. ดังกล่าว ในการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค สามารถควบคุมโรคได้มีประสิทธิภาพ ลดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม อำนวยความสะดวกกับเจ้าหน้าที่ในการค้นหาผู้ป่วย สอบสวน และควบคุมโรคได้เร็ว
นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 จำนวน 2 ราย รักษาหาย 1 ราย ซึ่งได้เดินทางกลับประเทศไปแล้ว และอีก 1 ราย ซึ่งเดินทางมาจากกรุงเทพฯ โดยติดมาจากสนามมวย ขณะที่มีคนในครอบครัวและเพื่อนที่อยู่ในเกณฑ์เสี่ยงสูงต้องเฝ้าระวังอีก 6 ราย และตั้งแต่ช่วงเริ่มมีการแพร่ระบาดในประเทศไทยและพบผู้ป่วยจนถึงปัจจุบัน ในจังหวัดเชียงใหม่มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรค 374 ราย และอยู่ระหว่างรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 23 ราย ถือว่าปัจจุบันจังหวัดเชียงใหม่ มีความเสี่ยงสูงด้านการแพร่ระบาด ที่ติดอันดับรองจากกรุงเทพฯ และภูเก็ต เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ก็ถือว่ามีความเสี่ยงเทียบเท่ากับทุกประเทศเช่นกัน
นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อไม่ให้การแพร่ระบาดขยายไปในวงกว้างจึงมีความจำเป็น อย่างยิ่งเพื่อลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรคในสถานที่ต่างๆ ที่มีความเสี่ยงสูง ทางจังหวัดเชียงใหม่ อาศัยอำนาจตามความมาตรา 35 (1) แห่งพระราชบัญญัติโรคคิดต่อ พ.ศ. 2558 ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 5/2563 เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2563 จึงได้ออกมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด ดังนี้
1. ให้ปิดสถานที่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2563 ถึงวันที่ 1 เมษายน 2563 ได้แก่ สถานบริการ ตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 แก้ไขเพิ่มเติมถึงปัจจุบัน และสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายสถานบริการ, สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 ได้แก่ ร้านสปา ร้านนวดเพื่อสุขภาพ ร้านนวดเพื่อเสริมความงาม, ร้านนวดแผนโบราณ เว้นแต่การให้บริการดังกล่าวในสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล, ร้านเกมส์, ร้านคาราโอเกะ , สถานประกอบกิจการสถานที่ออกกำลังกาย (ฟิตเนส), สถานประกอบกิจการโรงมหรสพ (โรงภาพยนตร์ โรงละคร โรงมหรสพ), สนามเด็กเล่นในห้างสรรพสินค้า, ถนนคนเดินวัวลาย ถนนคนเดินราชดำเนิน ถนนคนเดินรวมโชค ถนนคนเดินนิมมาน
2. ให้ปิดสถานที่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ได้แก่ สนามมวย, สนามม้า และสนามชนไก่
ขอให้ผู้ที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน หรือเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงหรือพื้นที่ที่มีรายงานการระบาด แยกกักตัวที่บ้าน เป็นเวลา 14 วัน วัดอุณหภูมิร่างกายทุกวัน หากพบว่ามีไข้ ร่วมกับอาการทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หอบเหนื่อย ให้รีบไปพบแพทย์ โดยแจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ หรือแจ้ง 1669 เพื่อประสานการรับตัว ล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ ปิดปากจมูกด้วยกระดาษทิชชูทุกครั้งที่ไอจาม หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดบุคคลอื่นในที่พักอาศัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และอยู่ห่างจากคนอื่นไม่น้อยกว่า 1 – 2 เมตร หรือ 1 – 2 ช่วงแขน ใช้เวลาพบปะผู้อื่นให้สั้นที่สุด แยกห้องนอน แยกของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดหน้า ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว จาน ชาม ช้อน แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ โทรศัพท์ รวมทั้งให้แยกทำความสะอาด แยกน้ำดื่มเฉพาะ แยกสำรับอาหาร ไม่รับประทานอาหารร่วมกับคนในครอบครัว แยกขยะที่ปนเปื้อนน้ำมูก น้ำลาย เช่น หน้ากากอนามัย กระดาษทิชชู ให้เก็บรวบรวมและทำลายเชื้อทุกวัน โดยใส่ถุงขยะ 2 ชั้น ทำลายเชื้อโดยราดด้วยน้ำยาฟอกขาว แล้วมัดปากถุงให้แน่น
สำหรับประชาชนทั่วไป ขอให้สร้างสุขอนามัย ยึดหลัก “ลด เลี่ยง ดูแล” คือ ลดความเสี่ยง ด้วยการล้างมือด้วยน้ำ และสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ให้บ่อยขึ้น หากรู้สึกไม่สบาย ไอ จาม ให้สวมหน้ากากอนามัย เลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่ที่มีการระบาดและพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น เลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้า
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถประเมินความเสี่ยงก่อนมาโรงพยาบาลต่อการติดเชื้อ COVID-19 ด้วยแบบประเมินออนไลน์โรงพยาบาลราชวิถี https://bit.ly/2x8LLD6 และติดตามสถานการณ์ ข้อมูลข่าวสารได้ทาง เว็บไซต์ https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/ และ “ไทยรู้ สู้โควิด” ทาง Twitter, Facebook, Line official, TikTok และChatBot 1422 ทาง ID : @COVID-19 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ กลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ โทร.053-211048 ต่อ 110 , 084-8052121 สามารถติดตามสถานการณ์และข้อมูลเกี่ยวกับโรคไวรัสโคโรนา2019(COVID-19)ได้ที่ https://www.chiangmaihealth.go.th/cmpho_web/coronavirus_knowledge.php
นายวโรดม ปิฏกานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร และด้านธุรกิจต่างๆ ทางรัฐบาลได้มีมาตรการออกมาเพื่อให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำแล้ว ซึ่งหากผู้ประกอบการที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ก็ติดต่อมาได้ที่หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ และปัจจุบันทางผู้ประกอบการสถานบันเทิง ร้านนวดสปา ฟิตเนส โรงภาพยนต์ ก็เข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี และพร้อมให้ความร่วมมือกับทางจังหวัดเชียงใหม่ที่จะปิดบริการชั่วคราวในช่วงระยะนี้จนกว่าจะผ่านพ้นวิกฤติการแพร่ระบาด
เรื่องมาใหม่
- AIS ผนึก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจไซเบอร์เปิด “มาตรการระเบิดสะพานโจร” บุกรวบจีนเทา พร้อมเครื่องส่ง SMS ปลอม
- เชียงราย จัดกิจกรรมเสริมสร้างความเข้มแข็งระบบกลไกเครือข่ายทีมสหวิชาชีพด้านเด็กและเยาวชน
- (คลิป) ตำรวจแม่จัน เชียงราย จับสึกพระเมาเหล้าขอปัจจัย
- เจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอน อนุโมทนา “ปิดเทศกาลนมัสการพระธาตุดอยกองมู ( ลอยกระทงสวรรค์) ประจำปี 2567”
- “น้องโบว์ลิ่ง” คว้ารางวัลชนะเลิศการประกวดหนูน้อยนพมาศเมืองยวมใต้ ประจำปี 2567