วันพฤหัสบดี, 21 พฤศจิกายน 2567

(คลิป) เชียงราย ไทย – เมียนมา เตรียมสร้างพนังกั้นแม่น้ำสาย เตรียมรื้ออาคารรุกล้ำตลลอดแนว

Social Share

เชียงราย ไทย – เมียนมา เตรียมสร้างพนังกั้นแม่น้ำสาย เตรียมรื้ออาคารรุกล้ำตลลอดแนว

วันที่ 27 ต.ค.67 หลังจากที่ได้เกิดน้ำท่วมใหญ่พื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ล่าสุด นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้มีคำสั่ง จ.เชียงราย ที่ 5479/2567 เรื่อง “แต่งตั้งคณะทำงานสำรวจและออกแบบการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง และการขุดลอกในแมน้ำสาย-แม่น้ำรวก ฝ่ายไทย”เพื่อแก้ไขปัญหาอุกทกภัยที่เกิดขึ้นตลอดแนวแม่น้ำทั้ง 2 สาย โดยคณะกรรมการมีหลายฝ่ายโดยเฉพาะฝ่ายอำนวยการและที่ปรึกษาพบว่ามีทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด อัยการจังหวัด รอง ผอ.กอ.รมน.จังหวัด (ฝ่ายทหาร) ตำรวจภ-ธรจังหวัดเชียงราย กรมกิจการชายแดนทหาร กรมแผนที่ทหาร ,กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ร่วมด้วย

โดยมีคณะทำงาน สำรวจและออกแบบเขื่อนป้องกันตลิ่งและการขุดลอกในแม่น้ำสาย-แม่น้ำรวก ซึ่งมีโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเป็นประธานส่วนกรรมการเป็นฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมีคณะทำความเข้าใจกับผู้จะได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างดังกล่าวนำโดยนายอำเภอแม่สาย โดยเจ้าหน้าที่ได้เริ่มออกสำรวจพื้นที่เพื่อวางแผลดำเนินการแล้ว ซึ่งที่ผ่านมา จ.เชียงราย เคยมีการประชุมและมีแนวคิดว่าจะกันพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำสายออกมาประมาณ 40 เมตร เพื่อก่อสร้างแนวกั้นตลิ่งและให้น้ำระบายได้สะดวกเนื่องจากในปัจจุบันริมฝั่งเต็มไปด้วยอาคารกั้นทางน้ำ ซึ่งหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในปี 2568

หลังจากเก่อนหน้านี้ ที่ห้องประชุมด่านศุลกากรแม่สาย อ.แม่สาย พล.ท.ณัฐพงษ์ เพราแก้ว เจ้ากรมกิจการชายแดน ได้เดินทางไปประชุมร่วมกับ พล.จ.โซหล่าย ผู้บัญชาการภาคสามเหลี่ยม ประเทศเมียนมา ซึ่งฝ่ายไทยขอบคุณฝ่ายเมียนมาที่ให้ความร่วมมือให้เข้าไปติดตั้งเครื่องโทรมาตรเพื่อวัดระดับน้ำสำหรับแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมจำนวน 4 จุด ได้แก่ บ้านโจตาดา บ้านดอยต่อคำ สะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 และแม่น้ำรวก โดยะนำไปติดตั้งตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.- 2 พ.ย.นี้ ซึ่งจะสามารถแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมล่วงหน้าได้ภายใน 8 ชั่วโมง

นอกจากนี้ที่ประชุมหารือกันเรื่องอาคารกีดขวางและรุกลำน้ำซึ่งเกิดขึ้นทั้ง 2 ฝั่งประเทศ โดยฝ่ายไทยแจ้งว่าจะต้องรื้อถอนออกโดยฝ่ายไทยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทำให้ฝ่ายเมียนมายินดีและจะทำการรื้อถอนสิ่งรุกล้ำลำน้ำด้วยเช่นกัน พร้อมแจ้งว่าใน จ.ท่าเหล็ก มีอาคารล้ำแม่น้ำสายจำนวน 33 หลังซึ่งพร้อมจะรื้อถอนพร้อมกับฝ่ายไทยต่อไป ทั้งนี้ทั้ง 2 ฝ่ายจะนำผลการประชุมแจ้งต่อที่ประชุมคณะกรรมการร่วมไทย-เมียนมา เกี่ยวกับเขตแดนคงที่ ช่วงแม่น้ำสาย – แม่น้ำรวก (Thailand- Myanmar Joint Committee Relating to the Fixed Boundary on Mae Sai – Nam Ruak Rivers Sector : JCR) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 5-7 พ.ย.นี้ ที่กรุงเทพฯ ต่อไป

Cr. ณัฐวัตร ลาพิงค์