วันพฤหัสบดี, 19 กันยายน 2567

อธิบดีกรมการแพทย์ฯ เปิดเวทีให้ความรู้กับประชาชนเพื่อให้ใช้กัญชาได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย

Social Share

อธิบดีกรมการแพทย์ฯ เปิดเวทีให้ความรู้กับประชาชนเพื่อให้ใช้กัญชาได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย มีประสิทธิภาพและคุ้มค่ารักษาโรคได้ แต่เป็นห่วงเรื่องการเปิดเสรีเป็นวงกว้างกับการควบคุมให้เป็นไปตามกฎหมาย

5 ก.ค. 62 : นายแพทย์ มรุต จิรเศรษฐศิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการล้านนาเมืองสุขภาพ โดยมีนายแพทย์ จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์ วัลลภ เผ่าพนัส ประธานสมาพันธ์การแพทย์แผนไทยล้านนา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และประชาชนเข้าร่วมในกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ที่้ห้องลีลาวดี ภายในศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยภายในกิจกรรม ได้มีการแสดงแสงแห่งแพทย์แผนไทย และการอภิปรายเรื่อง การใช้กัญชาทางการแพทย์แผนไทย และอภิปรายเรื่องคู่มือเวชปฏิบัติแพทย์แผนไทย 5 กลุ่มอาการ ความดัน เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง เวียนศีรษะ บ้านหมุน เนื่องจากน้ำในหูไม่เท่ากัน เพื่อให้ประชาชนได้ดูแลสุขภาพของตนเองและใช้น้ำมันกัญชา หรือผลิตภัณฑ์จากกัญชาโดยถูกกฎหมายและปลอดภัย

​จากการเปิดตัวโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ที่ผ่านมา ตามยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน และแม่ฮ่องสอน, สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่, ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1 และสำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 รวมทั้งสร้างเอกลักษณ์และอัตลักษณ์อารยธรรมล้านนาสู่สากล ภายใต้แนวคิด “กินดี อยู่ดี วิถีล้านนา” และมีการจัดประชุมวิชาการล้านนาเมืองสุขภาพ (Lanna Wellness City) ระหว่างวันที่ 3 – 5 กรกฎาคม 2562 ภายในงาน Lanna Expo 2019 ณ ห้องลีลาวดี ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่

นายแพทย์ มรุต จิรเศรษฐศิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า การจัดงานวันนี้ เป็นการเปิดให้ประชาชนได้ประโยชน์ในการใช้แพทย์แผนไทยในการรักษา การให้ความรู้ในการใช้สมุนไพรได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะเรื่องกัญชาที่ให้ประชาชนได้ใช้อย่างถูกต้อง สำหรับงานวิจัยที่เป็นแผนปัจจุบันในเรื่องของกัญชา ได้ ในกลุ่มที่ 1 แบ่งออกเป็น 4 โรค ในกลุ่มที่ 2 มีทั้งหมด 6 โรค และกลุ่มที่ 3 มีประมาณกว่า 10 โรค ถ้าคิดว่าเป็นยา ก็ต้องนึกถึงเรื่องของความปลอดภัย ประสิทธิภาพ คุณภาพ แต่ถ้าเป็นยาไทย ไม่ได้พูดถึงเรื่องของความปลอดภัยมากนัก ตรงนี้เป็นการแพทย์ดั้งเดิม และทั่วโลกให้สิทธิว่าสามารถใช้ได้ เพราะทดลองมาด้วยชีวิตคนเป็นร้อย เป็นพันปี ในส่วนของคุณภาพ ก็ต้องมาดูประสิทธิภาพ และความปลอดภัย ในโลกปัจจุบันทุกคนก็เป็นห่วง ถ้าเป็นยา ถ้ารักษาแล้ว 99.99 ต้องได้ผล หากมีปัญหาขึ้นมาทางโรงพยาบาลในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข หรือเอกชนก็แล้วแต่ หากรักษาแล้วเกิดปัญหาก็จะเกิดความเดือดร้อนไปยังโรงพยาบาล

ทางรัฐบาลก็มีการพัฒนาและวิจัย ควบคู่กันไป การวิจัยและนำมาเป็นยานั้นยากมาก ต้องใช้เวลา 5 – 10 ปี ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขก็ได้อนุญาติให้มีการศึกษาไปและรักษาไป ทั้งแพทย์แผนไทยและแผนปัจจุบัน

ส่วนประชาชนที่ไม่มีความรู้และนำมาใช้ในปริมาณที่ผิด จุดนี้ก็ไม่สามารถพูดได้เพราะเป็นความรู้จากภูมิปัญญาของแต่ละคน และของครอบครัว ทางรัฐบาลก็มีนโยบายที่จะทำกัญชารักษาโรคได้ และที่รัฐบาลจัดทำได้ก็อาจจะไม่คิดราคา รวมถึงจัดบัตรประกันสุขภาพเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงตัวยาได้ และกรณีกัญชาเสรี ก็มีความเป็นห่วงเรื่องของเยาวชน ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุข มีหน้าที่ต้องดูแลประชาชน มีกฎหมายที่ต้องทำตาม ถ้าท่านผู้ใหญ่จะปรับกฎหมายอย่างไรให้เอื้ออำนวยต่อสถานศึกษา หรืออะไรต่างๆ ตรงนี้ก็จะปฏิบัตตาม แต่ต้องชั่งน้ำหนักว่า การเปิดกว้างและการควบคุมในการใช้ทางการแพทย์อย่างเดียว หรือการใช้ที่มีผลต่อประชาชนในระยะยาว ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ทางกระทรวงฯ มีหน้าที่ดูแลรักษาสุขภาพของพี่น้องประชาชน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ก็หวังว่ากัญชาจะเป็นประโยชน์และของดีให้ได้ใช้ประโยชน์ต่อไปในอนาคต และจำนวนผู้ป่วยก็มีการสำรวจโดยการแพทย์แผนไทย พบว่ามีจำนวนหลายพันราย แต่ก็บอกไม่ได้ว่าจะใช้ยาตำรับไหน ก็คงต้องรอต้นเดือนหน้าเมื่อตัวยาออกมาแล้ว ก็ต้องดูว่าประชาชนใช้ตัวยาไหนมากกว่ากัน

ทางภาคเหนือ ก็มีที่จังหวัดลำปาง มีการยื่นขอมาเพื่อจะปลูกจำนวนหลายไร่ ซึ่งได้พูดคุยกันมา 3 – 4 เดือนแล้ว ก็หวังว่าจะได้กัญชามาใช้จริงๆ แต่หากมีการเริ่มปลูกตั้งแต่ช่วงเริ่มคุย ถึงตอนนี้คงได้ใช้แล้ว ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงการขออนุญาต และอาจปลูกได้ในเดือน ส.ค. 62 ถ้าปลูกแล้ว 3 – 4 เดือน ก็จะได้ใบ เมื่อถึงระยะ 5 – 6 เดือนก็จะได้ช่อดอกที่แข็งแรง