(คลิป) พ่อยืนยังจะไม่ฝังศพน้องบ๊อบบี้ จนกว่าจะจับคนร้ายได้ ขณะที่ลูกสาวคนโตบอกได้ยินเสียงคนร้องไห้ก่อนน้องบ็อบบี้หายไป

พ่อยืนยังจะไม่ฝังศพน้องบ๊อบบี้ จนกว่าจะจับคนร้ายได้ ขณะที่ลูกสาวคนโตบอกได้ยินเสียงคนร้องไห้ก่อนน้องบ็อบบี้หายไป

จากกรณีที่น้องบ๊อบบี้ หรือเด็กชาย ธนโชต แปงเรือน อายุ 7 ปี บ้านอยู่ในหมู่ที่ 9 ต.ดงมหาวัน อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย ได้หายออกจากบ้านไปตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ม.ค. 64 กระทั่งได้พบศพในช่วงบ่ายวันที่ 17 ม.ค. 64 นอนเสียชีวิตอยู่ในดงต้นกล้วยภายในเขตบ้านใหม่มหาวัน หมู่ที่ 12 ต.ดงมหาวัน อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงใหม่ สภาพศพมีรอยเขียวช้ำตามร่างกายหลายแห่ง และจุดที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากบ้านของน้องบ๊อบบี้ เพียง 2 กิโลเมตร

วันที่ 19 ม.ค. 64 พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย ได้นำตำรวจชุดสืบสวน ภ.5 ลงพื้นที่สนับสนุนการคลี่คลายคดีกับ ภ.จว.เชียราย และ สภ.เวียงเชียงรุ้ง โดย พ.ต.อ.ทิวา สกุลวัฒนะ ผกก.สภ.เวียงเชียงรุ้ง ได้เรียกสอบปากคำ นายไทธชา แสงเสรีธรรม ผู้ใหญ่บ้านป่าสักงาม นายทรงวุฒิ แปงเรือน อายุ 30 ปี และภรรยาซึ่วเป็นและแม่ของน้องบ๊อบบี้ รวมทั้งรอผลชันสูตรพลิกศพจากแพทย์นิติเวชแต่เบื้องต้นพบร่องรอยถูกทุบตามร่างหายและใบหน้าจนช้ำ

ด้านที่บ้านเลขที่ 397 หมู่บ้านป่าสักงาม (เวียงคำฟ้า) หมู่ 9 ต.ดงมหาวัน อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เขียงราย ทางญาติและชาวบ้านในหมู่บ้านมาให้กำลังใจ ครอบครัว นายทรงวุฒิ โดยที่บ้านยังมีภรรยาของนายทรงวุฒิซึ่งเป็นมารดาบุญธรรมของ ด.ช.ธนโชต ซึ่งมีอายุ 26 ปี นายไก่ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี น้องชายของบิดาบุญธรรมของนายทรงวุฒิผู้ที่ดูแลน้องบ๊อปบี้และพี่น้องคนอื่นๆ ก่อนที่บ้องบ๊อบบี้จะหายไป ขณะที่บรรยากาศยังคงเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

นายทรงวุฒิ กล่าวว่า ยังคงเชื่อว่าการที่น้องบ๊อปบี้จะสามารถไปถึงจุดที่พบศพของเขาได้จะต้องมีผู้ใหญ่นำพาไปอย่างแน่นอน แม้ว่าตามปกติเด็กๆ ในหมู่บ้านรวมทั้งลูกชายคนกลางของตนมักจะพากันออกไปวิ่งเล่นตามพื้นที่ทั่วไปในหมู่บ้าน และระยะทางที่พบศพก็ถือว่าอยู่ในวิสัยที่เขาสามารถไปถึงได้แต่ไม่ใช่จุดที่เด็กๆ มักจะเข้าไปเล่นกัน จึงจะเก็บศพของลูกชายเอาไว้ไม่นำมาฝังตามประเพณีจนกว่าคดีจะคลี่คลายไปกว่านี้หรือจับกุมคนร้ายได้เสียก่อน

ด้านนายไก่ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ลูกชายของพ่อบุญธรรมนายทรงวุฒิ ซึ่งเป็นคนดูแลน้องบ๊อบบี้เป็นคนสุดท้าย กล่าวว่า ตนรับดูแลน้องบ๊อบี้และหลานๆ 3 คนในบ้านนาน 3 ปีแล้ว เพราะพ่อแม่ของเขามักจะออกไปรับจ้างกรีดยางนอกพื้นที่ครั้งละ 2-3 วัน ที่ผ่านมาก็ไม่พบผิดปกติใดๆ ปกติจะมีเพื่อนขี่จักรยานมารับน้องบ๊อบบี้ออกไปเล่นกันในหู่บ้านเป็นประจำ กระทั่งวันเกิดเหตุในช่วงบ่ายตนได้จุดไฟในห้องครัวเพื่อต้มน้ำ ก่อนจะออกไปเปลี่ยนแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือที่ตลาดใน อ.เวียงเชียงรุ้ง และกำชับไม่ให้หลานๆ ออกไปเล่นนอกบ้านอีกเมื่อเสร็จธุระในเวลาเย็นจึงกลับบ้านก็พบว่าเหลือหลานเพียง 2 คนดังกล่าว จึงได้สอบถามหลานที่เป็นพี่สาวคนโตอายุ 9 ขวบก็ทราบว่าช่วงเกิดเหตุได้ไปทำปัดกวาดห้องครัวแต่ได้ยินเสียงคนร้องไห้ที่ห้องโถงของบ้าน เมื่อออกมาดูก็ไม่พบบ๊อบี้แล้ว ส่วนน้องชายวัย 4 ขวบยังสื่อสารไม่ได้มากนักจึงไม่ทราบว่าใครพาไปกันแน่