AIS ผนึกกำลังสถาบันทางการเงิน ขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ด้วยสินเชื่อสีเขียว Green Loan ครั้งแรกในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย เดินหน้ายกระดับขีดความสามารถโครงข่าย 5G สู่ Green Network
AIS ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนที่มุ่งสร้างการเติบโตร่วมกันของผู้คน เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมในโลกดิจิทัล พร้อมผนึกกำลังร่วมกับสถาบันทางการเงินชั้นนำลงนามรับการสนับสนุนสินเชื่อสีเขียวเพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Loan) ครั้งแรกในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท ระยะเวลา 7 ปี จาก ธนาคารพันธมิตร ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อลงทุนยกระดับขีดความสามารถของโครงสร้างพื้นฐาน 5G สู่โครงข่ายสีเขียว Green Networkโดยใช้แหล่งพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ควบคู่กับแหล่งพลังงานหลักที่สถานีฐานทั่วประเทศในการดำเนินงานและส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลให้กับลูกค้าและประเทศไทย รวมถึงความร่วมมือครั้งนี้ยังเป็นการผสานกลยุทธ์ด้านการเงินในการขับเคลื่อนเป้าหมายการดำเนินธุรกิจของ AIS ที่จะสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืน
นายมนตรี คงเครือพันธุ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวว่า “AIS มีความมุ่งมั่นและขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่การเป็นองค์กรโทรคมนาคมเทคโนโลยีอัจฉริยะ หรือ Cognitive Tech-Co ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนภายใต้แนวคิดSustainable Nation ที่นำขีดความสามารถของดิจิทัลเทคโนโลยีมาสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศบนเศรษฐกิจแบบร่วมกัน หรือ ECOSYSTEM ECONOMY ทั้ง ผู้คน สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมในโลกดิจิทัล ทำให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเรามีความแข็งแกร่งในทุกมิติโดยเฉพาะสถานะทางการเงินจากผลการดำเนินงานและการลงทุนอย่างต่อเนื่องจนได้รับความเชื่อมั่นและการสนับสนุนสินเชื่อสีเขียวเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือ Green Loan จากสถาบันทางการเงินทั้ง 3 แห่ง
แน่นอนว่าการได้รับ Green Loan ในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของ AIS ที่จะขับเคลื่อนธุรกิจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงผ่านการจัดหาเงินทุนอย่างยั่งยืนตาม AIS Sustainable Finance Framework ที่ได้รับการสอบทานจากผู้ชำนาญอิสระ บริษัท ดีเอ็นวี (ประเทศไทย) จำกัด โดยเราจะนำเงินกู้มาช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลและโครงข่าย 5G และยกระดับสู่การเป็น Green Network หรือ โครงข่ายสีเขียวที่ยืดหยัดเพื่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่สถานีฐาน ศูนย์ข้อมูลคอมพิวเตอร์และชุมสายทั่วประเทศ เพื่อผลิตพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ที่จะมาใช้ควบคู่กับพลังงานหลักในการดำเนินงานเพื่อส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลให้กับลูกค้าและคนไทย”
นายประกอบ เพียรเจริญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ และวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กรุงศรีให้การสนับสนุนด้านการเงินเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance) มาอย่างต่อเนื่อง ผ่านความร่วมมือกับ MUFG โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ส่งเสริมการปรับตัวของภาคธุรกิจสู่ความยั่งยืน และในครั้งนี้กรุงศรีมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ต่อยอดความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมในการสนับสนุนสินเชื่อเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับ AIS ซึ่งเป็นผู้นำด้านการสื่อสารของไทยที่มีความแข็งแกร่งทั้งทางการเงินและการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยให้ทั้งกรุงศรี และ AIS บรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และร่วมขับเคลื่อนประเทศสู่การพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป โดยธนาคารมีความยินดีที่ได้รับโอกาสในการทำงานอย่างใกล้ชิดกับทั้งบริษัท AIS และ บริษัท ดีเอ็นวี (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อให้ AIS Sustainable Finance Framework ครอบคลุมโครงการเพื่อความยั่งยืนของธุรกิจโทรคมนาคมที่หลากหลาย และเป็นไปตามมาตรฐานสากล”
นายวัลลภ ว่องจิตต์วุฒิไกร รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า “ธนาคารกสิกรไทยดำเนินธุรกิจบนหลักการการเป็นธนาคารแห่งความยั่งยืน และพร้อมสนับสนุนลูกค้าให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน โดยตลอดหลายปีที่ผ่านมาธนาคารได้ให้การสนับสนุนลูกค้าธุรกิจทั้งสินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Loan) ผลิตภัณฑ์และบริการที่มากกว่าบริการทางการเงิน (Beyond Banking Solution) และองค์ความรู้ เพื่อช่วยส่งเสริมให้ลูกค้าเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ สำหรับการสนับสนุนวงเงินสินเชื่อเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับ AIS ซึ่งเป็นผู้นำด้านโทรคมนาคมของไทยในครั้งนี้ ธนาคารมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนภายใต้แนวคิด Sustainable Nation ของ AIS และร่วมยกระดับขีดความสามารถของโครงสร้างพื้นฐาน 5G สู่โครงข่ายสีเขียว Green Network ด้วยการใช้พลังงานสะอาด ซึ่งเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของไทย และเป็นก้าวสำคัญที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การโทรคมนาคมที่มีความยั่งยืนได้อย่างเต็มรูปแบบในอนาคต อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ประเทศไทยมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี ค.ศ. 2065”
นางศรัณยา อัสสมงคล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารกรุงไทย ดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญของสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) พร้อมนำเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) มาปรับใช้ ทั้งในมิติการเพิ่มศักยภาพในการทำธุรกิจ และการสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยการร่วมสนับสนุนสินเชื่อ Green Loan ให้แก่ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค (AWN) ในกลุ่ม AIS เพื่อใช้ในการลงทุนติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) ในสถานีฐาน รวมถึงโครงการ ESG อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจโทรคมนาคมของ AWN นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกรุงไทยและ AWN ในการลดผลกระทบ ทางสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการส่งเสริมการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพและลดต้นทุนการดำเนินงาน เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจโทรคมนาคมของประเทศไทยไปสู่โครงข่ายสีเขียว (Green Network) ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และลดต้นทุนในการดำเนินงาน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความสามารถของโครงสร้างพื้นฐาน 5G สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Economy) ตลอดจน ขับเคลื่อนธุรกิจและเศรษฐกิจประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน มุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนตามเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ตามแนวทางธนาคารยั่งยืนที่ธนาคารให้ความสำคัญเสมอมา เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้กับสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจของประเทศ ตามวิสัยทัศน์ “กรุงไทย เคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน”
เรื่องมาใหม่
- จับหนุ่มริมกกกลางเมืองเชียงรายโดน 4 ข้อหารวด ทำ-ใช้เงินปลอมพ่วงฉ้อโกง
- (คลิป) เชียงใหม่ เทศบาลตำบลสันปูเลย จัดงานยี่เป็งที่ลำน้ำแม่กวง พร้อม Holy Market กาดต้าน้ำชุมชนส่งเสริมการท่องเที่ยว
- (คลิป) ตำรวจท่องเที่ยว ร่วม ตร.สภ.เมืองเชียงราย ตรวจเข้มดูแลนักท่องเที่ยว เทศกาลลอยกระทง
- (คลิป) เชียงรายจัดกิจกรรม “ฟื้นฟูและส่งเสริมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประเพณีพื้นถิ่น ถนนคนเดินเมืองเชียงของ อำเภอเชียงของ”
- ป่อเต็กตึ๊งมอบผ้าห่มกันหนาว และเครื่องยังชีพราษฎรชาวเขาแม่ฮ่องสอน 1,000 ครอบครัว