วันอาทิตย์, 24 พฤศจิกายน 2567

ชลประทานเชียงใหม่ ยืนยันฝายดอยน้อยที่มีเศษขยะจำนวนมากไม่ส่งผลทำให้น้ำท่วมเชียงใหม่ เร่งกำจัดทุกวันไม่มีหยุด

Social Share

ชลประทานเชียงใหม่ ยืนยันฝายดอยน้อยที่มีเศษขยะจำนวนมากไม่ส่งผลทำให้น้ำท่วมเชียงใหม่ เร่งกำจัดทุกวันไม่มีหยุด

วัน ที่ 7 ต.ค. 67 นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายวิสูตร จันทร์เขียว หัวหน้าฝ่ายช่างกล นายรังสรรค์ บุญยสิงห์ กำนันตำบลน้ำดิบ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน และ นายณรงค์ วงศ์จันทร์ทิพย์ ฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 7 โครงการชลประทานเชียงใหม่ ลงพื้นที่ฝายดอยน้อย ตำบลดอยหล่อ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ ติดตามการจัดการเศษสวะ กิ่งไม้ที่ลอยมาติดฝายเป็นจำนวนมาก ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องตั้งแต่น้ำท่วมเมืองเชียงใหม่รอบแรก พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการ โดยใช้รถแบ็คโฮแขนยาว ทำการตักเศษขยะ เศษวัชพืช กิ่งไม้ขนาดใหญ่ออกจากฝาย ในขณะที่มวลน้ำยังไหลผ่านฝายได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด

นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ กล่าวว่า จากฝนตกหนักของพายุ “ซูริก” ในช่วงต้นเดือนและปลายเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา ทางฝายดอยน้อยได้ระบายน้ำออกไปทางปลายน้ำ และมีการกำจัดเศษสวะ พบว่าได้มีท่อนซุงเข้ามาชนสายสลิงที่อยู่ด้านหน้าบานระบายของฝายดอยน้อย ทำให้สลิงขาด และเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องแต่จำเป็นต้องแก้ไขเร่งด่วนด้วยการนำสลิงที่ขาดมาเกี่ยวกับหูบานด้านหลังของประตูระบายน้ำ เพื่อให้บานระบายยกได้ สลิงที่ขาดมีจำนวน 5 บาน ซึ่งยกบานขึ้นได้ที่ 2.5 – 3 เมตร มีอีกบานที่สลิงไม่ขาดก็สามารถยกได้เต็ม 6 เมตร

สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสลิงขาด ฝายยังสามารถระบายน้ำได้ โดยอัตราการไหลของมวลน้ำที่ผ่านฝายระบายน้ำดอยน้อยก็ยังอยู่ในระดับอัตราการไหล เนื่องจากมวลน้ำก็ยังเคลื่อนที่ผ่านได้เท่าเดิม แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือปรากฎการณ์ โช็คเอฟเฟค “Chook Effect” คือ น้ำด้านหน้าฝายจะยกตัวสูงขึ้น ซึ่งจากการประเมินของศูนย์วิเคราะห์สถานการณ์น้ำ สำนักงานชลประทานที่ 1 ปริมาณน้ำด้านหน้าฝายจะยกตัวสูงขึ้นกว่าปกติประมาณ 80 เซนติเมตร ทำให้น้ำไปล้นคันด้านหน้าของฝายดอยน้อยและเข้าไปในพื้นที่บ้านท่าไม้ ตำบลน้ำดิบ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ซึ่งน้ำที่ล้นคันไปนั้นจะเข้าสู่ทางผันน้ำเดิม โดยผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้พื้นที่การเกษตรบางส่วนมีน้ำไหลผ่าน ปัจจุบันน้ำที่ได้ล้นคันไปแล้วก็ได้กลับลงสู่แม่น้ำปิงตามปกติ ส่วนคันกั้นน้ำก็ยังได้รับความเสียหายอยู่ จำเป็นต้องซ่อมแซมต่อไปในอนาคต

ต่อประเด็นที่เป็นกังวลว่าน้ำที่เกิดการยกตัวขึ้นด้านหน้าประตูระบายน้ำ มีผลกระทบต่อน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่หรือไม่นั้น นายเกื้อกูล กล่าวว่า ด้านหน้าฝายดอยน้อย จะมีฝายหนองสลีก ที่เป็นฝายของชลประทานลำพูน และอยู่ห่างจากฝายดอยน้อยประมาณ 15 กิโลเมตร ระดับน้ำที่ยกตัวไปก็ยังไม่ถึงด้านท้ายของหนองสลีกที่อยู่ด้านบนของฝายดอยน้อย ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะในอำเภอหางดง สันป่าตอง รวมถึงในเขตเมืองลำพูน ยืนยันว่าไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ จุดที่ได้รับผลกระทบมีเพียงน้ำล้นตลิ่งเหนือฝายดอยน้อย เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 67 ที่ผ่านมาเท่านั้น

ยืนยันประตูระบายน้ำยังยกขึ้นลงได้ ไม่มีผลต่อการระบายน้ำ ส่วนเรื่องขยะ เศษสวะ กิ่งไม้ที่มาติดที่ฝายดอยน้อยขณะนี้ มีผลกระทบน้อย แต่หากมาติดที่ด้านหน้าฝาย ก็จะทำให้การยกตัวของน้ำเพิ่มสูงขึ้นไปอีก ในส่วนนี้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และท่านอธิบดีกรมชลประทาน ได้สั่งการให้โครงการชลประทานเชียงใหม่ สำนักงานชลประทานที่ 1 ทำการตักขยะออกตลอด ทำทุกวัน โดยใช้รถแบ็คโฮ แขนยาว จำนวน 2 คัน และมีรถขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามาช่วย ร่วมกับรถของชลประทาน เป็นรถดั๊มพ์ที่จะเอาเศษขยะ เศษสวะ กิ่งไม้ นำไปทิ้ง ซึ่งในวันนี้ดำเนินการแล้วเสร็จก่อนเที่ยง” นายเกื้อกูลฯ กล่าว

ด้าน นายรังสรรค์ บุญยสิงห์ กำนันตำบลน้ำดิบ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้รับผลกระทบประมาณ 5 หมู่บ้าน 40 กว่าครัวเรือน น้ำมาเร็วและลดเร็ว น้ำท่วมประมาณ 12 ชั่วโมง ปัจจุบันน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง และน้ำก็ข้ามฝายไปแล้ว เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ สำหรับพื้นที่การเกษตรเป็นสวนลำไย นาข้าว ก็มีน้ำท่วมขังไม่สูง ยังไม่ได้รับความเสียหายมาก เพราะน้ำมาเร็ว ลดเร็ว