วันอาทิตย์, 24 พฤศจิกายน 2567

ผวจ.แม่ฮ่องสอน เตรียมพร้อมช่วยเหลือผู้หนีภัยสงคราม 28,000 คน เน้นย้ำความมั่นใจพื้นที่ชายแดนแม่ฮ่องสอนปลอดภัย

Social Share

ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เน้นย้ำความมั่นใจพื้นที่ชายแดนแม่ฮ่องสอนปลอดภัย และเตรียมพร้อมกรณีต้องช่วยเหลือผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา ซึ่งมีสถานที่รองรับผู้หนีภัยความไม่สงบได้ประมาณ 28,000 คน

วันที่ 11 เม.ย. 67 ที่ห้องประชุมราชธรรมพิทักษ์ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานการประชุมหารือการเตรียมความพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา โดยมีนายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ปลัดจังหวัดแม่ฮ่องสอน หน่วยงานด้านความมั่นคง ทหารหน่วยเฉพาะกิจสิงหนาท หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 ตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน 336 และ 337 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สาธารณสุข และฝ่ายปกครอง

ทั้งนี้ที่ประชุมได้รับทราบสถานการณ์ชายแดนไทย เมียนมา ด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอนจากหน่วยความมั่นคง ทั้ง หน่วยเฉพาะกิจสิงหนาท หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 กองร้อย ตชด 336 กองร้อย ตชด 337 โดยทุกหน่วยงานยืนยันว่ามีความพร้อมในการช่วยเหลือและดูแลช่วยเหลือผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา หากเกิดสถานการณ์ความรุนแรงในเมียนมา แต่ทั้งนี้ทุกฝ่ายยืนยันว่าสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย เมียนมา ตลอดแนวชายแดนด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังไม่มีสถานการณ์ความรุนแรงที่จะส่งผลกระทบต่อราษฏรตามแนวชายแดน ซึ่งการสู้รบระหว่างชนกลุ่มน้อยกลุ่มต่างๆ กับทหารเมียนมา ในเมืองเมียวดี ตรงข้าม อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จะไม่ส่งผลกระทบถึงชายแดนด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน เนื่องจากพื้นที่ตลอดแนวชายแดนด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน ไม่มีสถานการณ์สู้รบ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เน้นย้ำความมั่นใจพื้นที่ชายแดนแม่ฮ่องสอนยังมีความปลอดภัย

นอกจากนั้นก็ยังได้รับทราบข้อมูลพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวและการเตรียมความพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาใน 7 อำเภอของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีพื้นที่ติดกับประเทศเมียนมาทั้ง 7 อำเภอ ขณะเดียวกันก็ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครองทั้ง 7 อำเภอประสานกับฝ่ายความมั่นคงในการเตรียมพร้อมกรณีต้องช่วยเหลือผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา หากในอนาคตมีสถานการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งปัจจุบันจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีพื้นที่ปลอดภัย กระจายอยู่ในพื้นที่ 7 อำเภอ รวม 22 แห่ง รองรับผู้หนีภัยความไม่สงบได้ประมาณ 28,000 คน

นอกจากนั้นที่ประชุมยังได้มีการพิจารณาแนวทางปฏิบัติในการบริหารจัดการกรณีบุคคลชาวเมียนมาเดินทางเข้ามาเข้าไทยตามแนว ชายแดนอันเนื่องมาจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมาและกรณีการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งได้มอบให้ฝ่ายปกครอง ดำเนินเพิ่มมาตรการและหลักเกณฑ์การป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายต่อไป

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล