อำเภอแม่สะเรียง เร่งตรวจสอบ “กู้ชีพ กู้ภัย” ผิดกฎหมายในพื้นที่แม่สะเรียง หากพบความผิดให้หน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการตามกฎหมายทันที
วันที่ 17 มีนาคม 2567 ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอแม่สะเรียง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง ได้เชิญประชุมส่วนราชการและหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ ในการกำกับดูแลระบบการแพทย์ฉุกเฉิน และประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องร้องเรียน “ กู้ชีพ กู้ภัย ” ผิดกฎหมายในพื้นที่อำเภอแม่สะเรียง โดยหน่วยงานที่เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย สถานีตำรวจภูธรแม่สะเรียง สาธารณสุขอำเภอแม่สะเรียง โรงพยาบาลแม่สะเรียง องค์การบริหารส่วนตำบลแม่คง องค์การบริหารส่วนตำบล ที่จัดตั้งหน่วยบริการแพทย์ฉุกเฉินขั้นพื้นฐาน และสมาคมกู้ชีพกู้ภัยแม่สะเรียง
นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง กล่าวว่า ตามที่ ได้ปรากฏข่าวทางสื่อสังคมออนไลน์และสื่อโทรทัศน์ กรณี มีบุคคลแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่“กู้ชีพกู้ภัย” ไม่ได้รับอนุญาต นำรถบริจาคไปขายและเคยถูกร้องเรียนว่าสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ ราษฎรในพื้นที่ มาแล้วหลายครั้ง นั้น อำเภอแม่สะเรียง ไม่ได้นิ่งนอนใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้มีการประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับทราบข้อเท็จจริงและระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบและพิจารณาว่าการกระทำความผิดประเด็นใดบ้างที่เข้าองค์ประกอบของกฎหมาย พร้อมทั้งได้กำชับ สั่งการ ให้หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ กำกับ ดูแลระบบการแพทย์ฉุกเฉิน “ กู้ชีพ กู้ภัย” ตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าพฤติกรรมลักษณะการกระทำดังกล่าว เข้าองค์ประกอบความผิดและฐานความผิดใด ตลอดจนตรวจประเด็นที่เกี่ยวข้องหรือมีการอ้างถึง เช่น การใช้วิทยุสื่อสาร การเรี่ยไร การแต่งกาย ฯลฯ หากพบว่าผู้ถูกร้องเรียน ได้มีการกระทำความผิดครบองค์ประกอบ ตามกฎหมายจริง ขอให้หน่วยงานรับผิดชอบเร่งดำเนินการรวบรวมเอกสารพยานหลักฐานและร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานพนักงานสอบสวนพื้นที่รับผิดชอบทันที โดยที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ภายใต้ระเบียบกฎหมาย
สำหรับ บุคคลผู้ถูกร้องเรียน ใช้นาม ส.ท โอ๊ต หรือ กู้ภัยเวียงงาม ปัจจุบัน อายุ 21 ปี ตั้งสำนักงานศูนย์กู้ภัยเวียงงาม อยู่ในพื้นที่หมู่บ้านหนองป่าแขม หมู่ที่ 10 ตำบลแม่สะเรียง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีพฤติกรรมแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยในนามหน่วยกู้ภัยเวียงงาม ซึ่งเคยถูกประชาชนในพื้นที่ร้องเรียน เมื่อปี พ.ศ. 2564 กรณีสร้างความเดือดร้อนการขับขี่รถกู้ภัยเปิดไซเรนเสียงดัง และขับขี่รถเร็วจนทำให้ประชาชนในพื้นที่หวาดกลัวและตื่นตระหนก และยังมีพฤติกรรมแต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินทางการแพทย์ (สพฉ.) ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นเยาวชน ยังไม่บรรลุนิติภาวะ สถานีตำรวจภูธรแม่สะเรียง จึงได้แจ้งให้ผู้ปกครองมาทำการเปรียบเทียบปรับ และ ยึดอุปกรณ์ไซเรนไว้
ทางด้าน สภ.แม่สะเรียง ได้มีการชี้แจ้งเบื้องต้นว่า ทาง สภ.แม่สะเรียง ได้มีการทำการเปรียบเทียบปรับบุคคลดังกล่าวหลังมีการร้องเรียน ในข้อหา ใช้ไฟสัญญาณแสงวับวาบ เสียงสัญญาณไซเรนโดยไม่ได้รับอนุญาต ติดไฟสัญญาณวับวาบและเสียงไซเรนในรถฉุกเฉิน โดยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำหนด และ ขับขี่รถโดยไม่มีใบอนุญาตใบขับขี่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินคดีกับผู้ถูกร้องเรียนในเรื่องเดิมอยู่ระหว่างเสนอสำนวนคำฟ้องต่อพนักงานอัยการจังหวัดแม่สะเรียง ส่วนในประเด็นที่มีการเสนอข่าวทางสถานีตำรวจภูธรแม่สะเรียง จะรวบรวมพยานหลักฐานหากพบว่ามีการกระทำความผิดจริง จะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาตามกฎหมายต่อไป
ในส่วนของโรงพยาบาลแม่สะเรียงได้ให้ข้อมูลว่า จากการตรวจสอบ “หน่วยกู้ภัยเวียงงาม” ของผู้ถูกร้องเรียน ไม่ปรากฏว่าอยู่ในระบบการแพทย์ฉุกเฉินฯ (สพฉ.) สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข และ พบว่า ผู้ถูกร้องมีการแต่งกายเครื่องแบบหน่วยปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉิน(สพฉ.) โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมชี้แจ้งกรณีการเข้าระบบบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน ต้องผ่านการอบรม 120 ชม. ซึ่งหน่วยปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินที่สามารถออกปฏิบัติงานได้ทันทีในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง ที่ได้รับการเข้าระบบ มี อปท.ร่วมอยู่ 3 แห่ง คือ เทศบาลตำบลแม่ยวม อบต.แม่เหาะ อบต.บ้านกาศ ในส่วนของ สมาคมกู้ชีพกู้ภัยแม่สะเรียง ได้รับการฝึกอบรมเรียบร้อยแล้วแต่อยู่ในขั้นตอนการรออนุมัติ เท่านั้น ซึ่งในกรณีบุคคลที่เกิดเป็นข่าว ทาง รพ.แม่สะเรียง จะได้รวบรวมเอกสารหลักฐานตามข้อกฏหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมายในประเด็น อาทิ ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตามระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน การใช้เครื่องหมายโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นต้น
ทั้งนี้ นายอำเภอแม่สะเรียงได้กำชับเน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดูระเบียบข้อกฎหมายต่างๆ ให้ชัดเจน โดยทางปกครองอำเภอแม่สะเรียง ได้ตรวจสอบเบื้องต้นไม่มีการยื่นทะเบียนจดจัดตั้งสมาคม มูลนิธิ ไม่พบว่ามีสมาคม มูลนิธิ “กู้ภัยเวียงงาม” แต่อย่างใด อีกทั้งการยื่นขออนุญาตทำการเรี่ยไร เบื้องต้นไม่ได้มีการขออนุญาตแต่อย่างใด หากพบข้อมูลว่ากระทำผิดจริง ก็ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย หากเขามีใจรักในความเป็นจิตอาสาชอบการช่วยเหลือสังคมช่วยเหลือคนทุกข์คนยาก ก็ถือเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนส่วนหนึ่ง ก็ต้องแนะนำให้เขาทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามระเบียบและกฎหมาย นายอำเภอแม่สะเรียง กล่าวทิ้งท้าย
ล่าสุด ส.ท โอ๊ต ได้ออกมาขอโทษสังคม กับสิ่งที่ได้ทำลงไป พร้อมยอมรับผิดในทุกประเด็นที่เกิดขึ้น และจะรีบหาเงิน 200,000 บาท มาคืนคนซื้อรถโดยเร็ว และ ขอปิดศูนย์กู้ภัยเวียงงาม ยุติการช่วยเหลือสังคมไปก่อน
Cr. สุกัลยา บัวงาม
เรื่องมาใหม่
- AIS ผนึก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจไซเบอร์เปิด “มาตรการระเบิดสะพานโจร” บุกรวบจีนเทา พร้อมเครื่องส่ง SMS ปลอม
- เชียงราย จัดกิจกรรมเสริมสร้างความเข้มแข็งระบบกลไกเครือข่ายทีมสหวิชาชีพด้านเด็กและเยาวชน
- (คลิป) ตำรวจแม่จัน เชียงราย จับสึกพระเมาเหล้าขอปัจจัย
- เจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอน อนุโมทนา “ปิดเทศกาลนมัสการพระธาตุดอยกองมู ( ลอยกระทงสวรรค์) ประจำปี 2567”
- “น้องโบว์ลิ่ง” คว้ารางวัลชนะเลิศการประกวดหนูน้อยนพมาศเมืองยวมใต้ ประจำปี 2567