วันอาทิตย์, 24 พฤศจิกายน 2567

แม่ฮ่องสอน เครื่องบินไม่สามารถบินลงได้ หมอกควันหนาทึบ ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดต่ำเหลือแค่เพียง 1.5 กม.

Social Share

แม่ฮ่องสอน เครื่องบินไม่สามารถบินลงได้ หมอกควันหนาทึบ ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดต่ำเหลือแค่เพียง 1.5 กม. ถือว่ามีหมอกควันหนาทึบมากที่สุด กระทบต่อการท่องเที่ยว แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวที่ใช้การเดินทางด้วยรถยนต์แทนเครื่องบิน

วันที่ 12 มีนาคม 2567 นายภานุเดช ไชยสกูล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยถึงสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควันไฟป่าในขณะนี้ว่า ผลกระทบจากหมอกควันไปป่า ล่าสุดทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลงเหลือเพียง 1.5 กม.ซึ่งจากสภาพดังกล่าวต้องยอมรับว่ากระทบต่อการบินของสายการบินที่เดินทางมายังท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางตามโปรแกรมทัวร์ที่จัดไว้ได้ เนื่องจากหากมีการขัดข้องเครื่องบินไม่สามารถบินได้ จะทำให้โปรแกรมการท่องเที่ยวที่จัดไว้เสียหายทั้งหมด จึงทำให้นักท่องเที่ยว ไม่วางใจต่อการเดินทางด้วยเครื่องบิน ซึ่งในตรงจุดนี้ การท่องเที่ยวของแม่ฮ่องสอนย่อมได้รับผลกระทบเต็ม ๆ อันมีสาเหตุมาจากหมอกควันไฟป่า

แต่อย่างไรก็ตามคาดว่า อีกไม่กี่เดือน เมื่อมีฝนตกลงมา สถานการณ์เกี่ยวกับหมอกควันไฟป่าก็จะลดลงไปเอง ทั้งนี้พบว่า นักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ได้นิยมเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยทางรถยนต์ส่วนตัว หรือรถเช่า และก็ยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินทางโดยทางรถยนต์เข้ามาท่องเที่ยว เป็นระยะ

นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ระบุว่า สถานการณ์ไฟป่าช่วงนี้ มีการลอบเผาป่าเพิ่มมากขึ้นอย่างผิดสังเกตุหลังจากมีการประกาศปิดป่าของรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้สั่งการไปยังกำนันผู้ใหญ่บ้านให้ตรวจสอบการลอบเผาป่าอย่างเข้มงวดและหากพบให้จับกุมนำตัวมาลงโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ในส่วนของหมอกควันที่เพิ่มขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งมาจากหมอกควันในประเทศเพื่อนบ้าน โดยในช่วงกลางคืน หลังเที่ยงคืนไปแล้ว ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาในภาคเหนือของประเทศ ซึ่งในประเทศเพื่อนบ้านมีจุดไฟป่ามากมายมหาศาลกว่าของไทยมากนัก ส่งผลให้หมอกควันเสริมเข้ามา ทำให้ค่าปริมาณฝุ่นละออง เพิ่มสูงมากขึ้นในช่วงเช้าตรู่ แต่พอเริ่มสายไปจนถึงช่วงเวลาบ่าย กระแสลมตะวันตกเฉียงใต้ จะพัดจากประเทศไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้หมอกควันในช่วงบ่ายเจือจางลง สถานการณ์ดังกล่าวย่อมทำให้หมอกควันจากไฟป่า พัดหวนไปมาระหว่างสองประเทศ ยิ่งมีการเผาป่าเพิ่มมากขึ้นก็ยิ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล