วันอาทิตย์, 24 พฤศจิกายน 2567

เศร้าสลด แม่ใจยักษ์ ไฟเผาทารกน้อย ก่อนโยนให้ทิ้งใกล้แคมป์ก่อสร้างให้สุนัขกัดแทะ

Social Share

เศร้าสลด แม่ใจยักษ์ ไฟเผาทารกน้อย ก่อนโยนให้ทิ้งใกล้แคมป์ก่อสร้างให้สุนัขกัดแทะ

วันที่ 1 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานมาจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อเวลา 20.00 น. ของคืนวันที่ 29 ก.พ 67 ร.ต.อ. สุวรรณ เจริญสุข พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน รับแจ้งเหตุพบศพทารกแรกเกิดถูกสุนัขคาบมาทิ้งบริเวณหน้าแคมป์คนงาน โรงโม่หิน ถนนเลี่ยงเมือง เขตพื้นที่บ้านขุนกลาง ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.ศรีสังวาลแม่ฮ่องสอน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิบรรเทาสาธารณภัยแม่ฮ่องสอน

ที่เกิดเหตุพบว่าเป็นศพทารกแรกเกิดถูกสุนัขคาบมาจากที่อื่นมาทิ้งไว้ห่างจากแคมป์คนงานประมาณเพียง 7 เมตร สภาพศพยังไม่มีกลิ่นเหม็นและมีร่องรอยถูกสุนัขกัดแทะหน้าท้องเป็นแผลฉีกขาด ชิ้นส่วนอวัยวะช่วงร่างและขาทั้งสองข้างหลุดหาย จึงไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย บริเวณศีรษะ และต้นแขนซ้ายมีรอยถูกไฟไหม้และชิ้นส่วนของมือ หลุดออกมา ส่วนแขนและมือข้างขวาขาดหาย ตามลำตัวยังพบร่องรอยถูกสุนัขกัดแทะเป็นแผลเหวอะหวะ เจ้าหน้าที่พยายามค้นหาอวัยวะชิ้นส่วนที่ขาดหายบริเวณที่พบศพ แต่ก็ไม่พบอะไรเพิ่มเติม

จากการสอบสวน นายพีระพงษ์ อายุ 24 ปี คนงานที่พักในแคมป์และเป็นผู้พบศพคนแรก ให้การณ์ว่า ตนกับภรรยาออกจากแคมป์ไปที่ไซต์งานตั้งแต่เวลา 7 โมงเช้า และกลับเข้ามาแคมป์ที่พักในเวลา 6 โมงเย็น ซึ่งระหว่างนั้นปรากฏเห็นสุนัข 2 ตัวกำลังกัดแทะซากศพอยู่จึงเข้าไปตรวจสอบดู พบว่าซากศพดังกล่าวลักษณะเหมือนเด็กทารกจึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ

จากการชันสูตรเบื้องต้นเด็กทารกน่าจะเสียชีวิตมาได้ 4-5 ชั่วโมง แต่เนื่องจากอวัยวะร่างกายบางชิ้นส่วนขาดหายและถูกสุนัขกัดแทะทำให้ไม่สามารถระบุเพศได้ เจ้าหน้าที่ได้เก็บดีเอ็นเอไว้เป็นหลักฐาน และรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ รวมถึงตรวจสอบว่าคนงานในแคมป์ดังกล่าวมีใครหายไปหรือไม่ หรือว่าช่วงนี้มีใครตั้งท้องหรือไม่ เบื้องต้นยังไม่พบมีผู้ใดน่าสงสัย เจ้าหน้าที่คาดว่าศพเด็กทารกน่าจะถูกสุนัขคาบมาจากที่อื่นที่ไม่ไกลจากแคมป์คนงาน และน่าจะเป็นหญิงสาวที่ชอบสนุกแต่ไม่พึงประสงค์จะมีลูก เมื่อตั้งท้องจึงทำคลอดเอง หลังจากคลอดออกมาเด็กอาจเสียชีวิต จากนั้นจึงนำเด็กไปเผาทิ้ง เนื่องจากตามร่างกายของทารกบางแห่งมีลอยไหม้เกรียม ก่อนที่สุนัขจะดมกลิ่นไปพบและคาบซากศพไปกัดแทะ จนอวัยวะบางชิ้นส่วนหลุดหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณถนนสายเลี่ยงเมือง และสืบสวนหาตัวแม่ใจร้ายรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป เนื่องจากบริเวณระแวกที่เกิดเหตุมีบ้านเรือนของผู้คนอาศัยอยู่ไม่กี่หลังคาเรือน

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล