วันอาทิตย์, 24 พฤศจิกายน 2567

ชาวบ้านชาติพันธุ์คนรุ่นใหม่แม่ฮ่องสอน ทวงแสงสว่าง มีเสาแต่ไร้สายกระแสไฟ วอนนายอำเภอช่วยเหลือชาวบ้านต้องการไฟฟ้า

Social Share

ชาวบ้านชาติพันธุ์คนรุ่นใหม่แม่ฮ่องสอน ทวงไฟฟ้า อยู่มืดมิดมาตลอดชีวิต ไม่เคยเห็นแสงสว่างจากไฟฟ้า ต่างรอความหวัง กฟภ.ปักเสามา 8 ปี แต่ยังไร้ซึ่งกระแสไฟ ชี้เป็นความเหลื่อมล้ำด้านคุณภาพชีวิตคนกับป่า ขีดเส้น 15 วัน

วันที่ 5 สิงหาคม 2566 นายอัครพันธุ์ พูลศิริ นายอำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า กลุ่มชาติพันธุ์คนรุ่นใหม่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เดินทางมาขอพบ ณ.ที่ว่าการอำเภอสบเมย จ.แม่ฮ่องสอน โดยมีกลุ่มคนรุ่นใหม่ชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์และปกาเกอะญอ ใน ต.แม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ร่วมกับสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) ในนามสมาชิกขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ได้เคลื่อนไหวเรียกร้องการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่ชุมชน โดยใช้โอกาสครบรอบ 13 ปี มติคณะรัฐมนตรี วันที่ 3 ส.ค. 2553 ว่าด้วยแนวนโยบายและหลักปฏิบัติในการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง ในการผลักดันข้อเรียกร้องดังกล่าวต่อ นายอำเภอสบเมย และนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน โดยนายอำเภอสบเมย รับเรื่องดำเนินการแล้ว พร้อมย้ำปีนี้มีไฟฟ้าใช้และรับฟังปัญหา ความเดือดร้อน และความต้องการ ด้านการพัฒนาระบบไฟฟ้า เพราะเห็นว่าเป็นความเหลื่อมล้ำด้านคุณภาพชีวิตคนกับป่า

นายเอกราช วิมานตระการ ตัวแทนสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า แม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ป่ามากถึง 86 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ เพราะไม่ว่าจะทำโครงการอะไรหน่วยงานก็จะอ้างว่าติดเขตป่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการขยายไฟฟ้าเข้าไปในชุมชนบ้านกองอูมและบ้านแม่คะ หมู่ที่ 3 และบ้านแม่หลุย หมู่ที่ 4 ต.แม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ที่มีความคืบหน้าครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2558 โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้นำเสาไฟฟ้าไปปักในชุมชนแล้ว แต่ผ่านมา 8 ปีไม่มีความคืบหน้า “นี่คือความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับชาวแม่ฮ่องสอนที่มีป่าถึง 86 เปอร์เซ็นต์ แต่คุณภาพชีวิตของเราไม่ได้ดี จะพัฒนาอะไรก็ติดเขตป่า ถ้าใครอยากจะเห็นว่าว่าการที่มีเสาไฟตั้งหน้าบ้าน แต่ไม่มีสายไฟมันเป็นยังไง ให้มาดูที่นี่ แม่สวด สบเมย แม่ฮ่องสอน ถามผู้นำคนไหนไปก็บอกแต่ว่าไม่รู้ๆ” นายเอกราชกล่าว

น.ส.มัลลิกา ศิริโสภาวัฒนา เยาวชนจากบ้านแม่คะ หมู่ที่ 3 ต.แม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาที่มีเสาไฟฟ้าตั้งอยู่หน้าบ้าน แต่ไม่สามารถใช้ไฟฟ้าได้ เป็น 8 ปีที่ชาวบ้านรอคอยอย่างมีความหวัง ในขณะที่ระหว่างการรอคอยนั้นมีชาวบ้านต้องสูญเสียโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตเป็นจำนวนมาก โดยที่ไม่มีผู้นำทางการคนไหนสามารถชี้แจงได้ว่าความคืบหน้าไปถึงไหน ติดปัญหาอุปสรรคอะไรจึงไม่ดำเนินการต่อ ต่อไปนี้คนในพื้นที่จะไม่ทนรออีกแล้ว ให้เวลาหน่วยงานชี้แจงภายใน 15 วันเท่านั้น “ถ้าแก้ไขปัญหาได้ คุณภาพชีวิตของพี่น้องจะดีขึ้นแน่นอน ทุกวันนี้มีบางบ้านที่พี่น้องซื้อตู้เย็นไปแล้ว แต่ไม่สามารถใช้ได้ หลายครั้งได้ประสานงานไปถามความคืบหน้า แต่ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ ซึ่งเป็นผลกระทบที่พวกเราคนในชุมชนต้องเจอ

หลังจากนั้นชาวบ้าน ต.แม่สวด ได้ยื่นหนังสือถึงนายก อบต. แม่สวด และนายอำเภอสบเมย โดยนายอำเภอสบเมยยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่ได้นิ่งนอนใจ และชาวบ้านจะมีชีวิตอยู่ดีกินดี “นายอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้นิ่งนอนใจ จะรีบดำเนินการ ยืนยันว่าพี่น้องจะกินดีอยู่ดี คิดว่าปีนี้จะได้ใช้ไฟ ผมจะดำเนินการเร่งรัดให้” นายอัครพันธุ์ พูลศิริ นายอำเภอสบเมย กล่าว ย้ำกับราษฏรที่เดินทางมาพบ

เครดิต…. ภาพข่าว ปกครอง อ.สบเมย