ปะทะต่อเนื่อง อำเภอแม่สะเรียงเร่งวางแผนให้ความช่วยเหลือผู้อพยพ หลังมีพบว่ายังมีเพิ่มเข้ามาอีก 2 จุด

ปะทะต่อเนื่อง อำเภอแม่สะเรียงเร่งวางแผนให้ความช่วยเหลือผู้อพยพ หลังมีพบว่ายังมีเพิ่มเข้ามาอีก 2 จุด พร้อมติดตามสถานการณ์การสู้รบอย่างใกล้ชิด

สถานการณ์ชายแดน ยังคงปรากฏข่าวสารการปะทะกัน ระหว่างทหารเมียนมา กับ กองกำลังชนกลุ่มน้อย/กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา บริเวณตามแนวชายแดนในพื้นที่ ด้านตรงข้าม ช่องทางเสาหิน ตำบลเสาหิน อำเภอแม่สะเรียง และบริเวณช่องทางห้วยต้นนุ่น ตำบลแม่เงา อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ต่อเนื่องเป็นระยะ ทำให้ขณะนี้มีรายงานพบผู้อพยพหนีภัยความไม่สงบเพิ่มเข้ามาฝั่งไทยอีก 2 จุด คือ บ้านอุนู และ บ้านจอปราคี ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นหมู่บ้านติดชายขอบการเดินทางค่อนข้างลำบาก เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ ตชด.337 และ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวินเข้าไปดูแลให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยเตรียมพร้อมจัดระเบียบระบบการช่วยเหลือ

ล่าสุดในเช้าวันที่ 26 มิถุนายน 2566 นายสุรเชษฐ์ พุ้ยน้อย นายอำเภอแม่สะเรียง ได้ประชุมหารือร่วม พันเอกสมภพ ใจบุญ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 พัน ร้อยตำรวจเอกอนุวัฒน์ ตาวงศ์ รอง ผบ.ร้อย.ตชด.337นายดำรงค์ นัยบุตร สาธารณสุขอำเภอแม่สะเรียง นายแพทย์บัณฑิต ดวงดี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สะเรียง พ.ต.อ.รัฐวิชญ์ วศินพงศ์ธนัช ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่สะเรียง เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งประชุมหารือการจัดระบบระเบียบการเข้าไปช่วยเหลือผู้อพยพทั้ง 2 จุด

ปัจจุบัน ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม ) ที่มีความกังวลจากสถานการณ์ในพื้นที่ ได้เดินทาง เข้ามายังฝั่งไทย จำนวน 4798 คน ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 4 พื้นที่ พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านเสาหิน ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง 3270 คน พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านพะแข่ ต.แม่กิ๊ อ.ขุนยวม 839 คน พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านอุนู ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จำนวน 206 คน พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านจอปร่าคี ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จำนวน 483 คน

สำหรับด้านดูและช่วยเหลือผู้อพยพยังมีธารน้ำใจยังหลั่งไหลช่วยเหลือผู้อพยพอย่างท่วมท้น หน่วยงานฝ่ายความมั่นคง และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์การเอกชน องค์กรต่างประเทศต่างๆ ได้ บูรณาการช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังในการดูและ การสร้างสุขอนามัยให้แก่ผู้หนีภัยจากความไม่สงบ โดยทำการขุดบ่อน้ำ หลุมขยะ หลุมส้วม เพื่อรองรับการสร้างเขตสุขาภิบาล สร้างห้องน้ำ และปรับปรุงระบบน้ำสำหรับใช้ อุปโภค-บริโภค าติ รวมทั้งการป้องกันโรคระบาด โดยเฉพาะโรคมาเลเรีย ซึ่งผู้พบป่วยแล้ว 18 ราย การดูแลความปลอดภัยการเข้าออกในพื้นที่ชั่วคราวอย่างเข้มงวด ติดตามสถานการณ์การสู้รบอย่างใกล้ชิด ซึ่งอำเภอแม่สะเรียงเจ้าหน้าที่ยังให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม อย่างเต็มกำลัง

อย่างไรก็ตาม ปัญหาและอุปสรรคสำคัญในห้วงเวลานี้คือฝนที่ตกหนักในพื้นที่ เนื่องจากเป็นห้วงฤดูฝน ยิ่งซ้ำเติมให้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้อพยพเหล่านี้ยากลำบากมากยิ่งขึ้น และ การเดินทางก็ยังเป็นปัญหาในการขนย้ายสิ่งของช่วยเหลือ จึงเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ต้องควบคุมปริมาณรถที่เข้าออกโดยไม่จำเป็น