วันจันทร์, 25 พฤศจิกายน 2567

ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน ระดมสิ่งของเพื่อนำความช่วยเหลือไปแก่ผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบ กว่า 4000 คน เข้ามายังฝั่งไทย

Social Share

ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน ระดมสิ่งของเพื่อนำความช่วยเหลือไปแก่ผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบ กว่า 4000 คน เข้ามายังฝั่งไทยด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน

วันที่ 21 มิถุนายน 2566 ที่สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดแม่ฮ่องสอน อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยนางจิราภรณ์ โมสิกรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายศรัณยู มีทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และนายพงษ์พีระ ชูชื่น ปลัดจังหวัดแม่ฮ่องสอน หัวหน้าส่วนราชการ ได้ร่วมรับมอบสิ่งของบริจาค จากประชาชนชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนและผู้มีจิตศรัทธา เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ด้านอำเภอขุนยวม และอำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน หลังเกิดเหตุการณ์ปะทะระหว่างทหารเมียนมา กับกองกำลังชนกลุ่มน้อยกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา ในพื้นที่ด้านตรงข้ามช่องทางเสาหิน บ้านเสาหิน ตำบลเสาหิน อำเภอแม่สะเรียง และพื้นที่บ้านพะแข่ ตำบลแม่กิ๊ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาเดินทางเข้ามายังฝั่งไทย ซึ่งจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้จัดให้เข้าพักพิงในพื้นที่ 2 แห่ง มีผู้หลบหนีภัย จำนวน 3,904 คน พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวบ้านเสาหิน ตำบลเสาหิน อำเภอแม่สะเรียง จำนวน 3,211 คน และพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวบ้านพะแข่ ตำบลแม่กิ๊ อำเภอขุนยวม 693 คน

ทั้งนี้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ จังหวัดแม่ฮ่องสอน และเหล่ากาชาดจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รวบรวมนำสิ่งของในการให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา ในพื้นที่อำเภอขุนยวม และอำเภอแม่สะเรียง เพื่อนำสิ่งของไปช่วยเหลือผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาในพื้นที่ปลอดภัยทั้งสองแห่งต่อไป

ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน แจ้งให้ทุกภาคส่วนรับทราบว่า สถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ด้านตรงข้ามพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้น ประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ของทั้งสองฝ่าย และไม่สนับสนุนให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ใช้พื้นที่ประเทศไทยเป็นพื้นที่สนับสนุนผลประโยชน์ของกลุ่มตนเองในการนี้ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ งดการเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน นอกจากนั้นยังเป็นการคัดกรองบรรดาผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบ ที่อาจเกิดการเจ็บป่วยจากการเดินทางเข้ามายังยังฝั่งไทย และอาศัยอยู่ในตามตะเข็บแนวชายแดนในฝั่งไทย ที่ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานด้านความมั่นคงให้การช่วยเหลือและดูแลอยู่ตามหลักมนุษยธรรม

ขณะเดียวกันด้านสถานการณ์ผู้หลบหนีภัยสงคราม เริ่มอพยพเข้ามาน้อยลง แต่ทางการไทยยังคงต้องจัดเตรียมการช่วยเหลือดูแลด้านสาธารณสุข ที่พัก อาหาร และ น้ำสะอาด เพื่อช่วยเหลือผู้หลบหนีภัยสงครามต่อไป