วันศุกร์, 22 พฤศจิกายน 2567

TCEB จับมือภาคีเปิดตัวงาน World Tea & Coffee Expo 2023 ตอกย้ำความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมชาและกาแฟของภาคเหนือตอนบน

Social Share

TCEB จับมือภาคีเปิดตัวงาน World Tea & Coffee Expo 2023 ตอกย้ำความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมชาและกาแฟของภาคเหนือตอนบน

เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2566 ณ ร้านอาหารชิดลมคาเฟ่ แอนด์ เรสเตอร์รองท์ เชียงใหม่ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวงาน World Tea & Coffee Expo 2023 ซึ่งเป็นงานประชุมและแสดงสินค้าในอุตสาหกรรมชาและกาแฟระดับโลก ที่จะจัดขึ้นในจังหวัด เชียงใหม่เร็ว ๆ นี้ โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคี ร่วมผนึกกำลังให้การจัดงาน ครั้งนี้บรรลุเป้าหมาย ผลักดันสร้างชื่อเสียงให้ภาคเหนือเป็น “ถิ่นของชาและกาแฟระดับโลก”

ทั้งนี้ งานประชุมและแสดงสินค้า World Tea & Coffee Expo 2023 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-29 มกราคม 2566 ณ ศูนย์การค้า One Nimman ย่านธุรกิจที่สำคัญใจกลางเมืองเชียงใหม่ ซึ่งทาง สสปน. ได้ใช้กลไก การแสดงสินค้าขับเคลื่อนพืชเศรษฐกิจระดับภาค เพื่อสร้างชื่อเสียง (Destination Branding) ต่อยอดความพร้อมของ ภาคเหนือตอนบนในการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมชาและกาแฟระดับโลก ซึ่งเป็นโครงการที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2563 โดยในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “A Cup of Success” เพื่อเน้นย้ำถึงความสำเร็จของธุรกิจชาและกาแฟในไทยที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด รวมถึงความสำเร็จที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต

ภายในงานแบ่งเป็นสองส่วน ได้แก่ ส่วนของงานแสดงและจำหน่ายสินค้า ในบริเวณพื้นที่ลานกิจกรรม กลางแจ้ง และส่วนของงานประชุมวิชาการนานาชาติในชื่อ The 3rd Tea and Coffee International Symposium ณ ห้องประชุม Nimman Convention Centre โดยในส่วนของงานแสดงสินค้าประกอบด้วยบูธของผู้ประกอบการจำนวน 50 ราย แบ่งเป็นบูธผู้ประกอบการชาและกาแฟภาคเหนือรวมทั้งภาคอื่นๆ จำนวน 45 ราย และต่างประเทศจำนวน 5 ราย โดยทั้งหมดเป็นผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ตามที่ สสปน. กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นในด้านความน่าเชื่อถือ คุณภาพ และมาตรฐานของสินค้า การนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ในกระบวนการผลิต และศักยภาพที่สามารถต่อยอดธุรกิจต่อไป ได้ในอนาคต เป็นต้น

โดยอีกหนึ่งกิจกรรมที่จะเป็นโอกาสทางการค้าที่สำคัญของผู้ประกอบการคือ การเจรจาธุรกิจ (Business Matching) ซึ่งในครั้งนี้มีการเชิญคู่ค้า หรือ buyer จากทั่วประเทศ 20 ราย และจากต่างประเทศจำนวน 5 ราย โดยการเจรจาจะมีทั้งรูปแบบออฟไลน์ภายในงาน และการเจรจาผ่านทางออนไลน์ ทั้งนี้ ตัวเลขคาดการณ์มูลค่าซื้อขายจากการเจรจาธุรกิจอยู่ที่ 8 ล้านบาท และส่วนของการซื้อขายภายในงานอยู่ที่ 2 ล้านบาท ในส่วนของผู้เข้าชมนั้น เดิมตั้งเป้าไว้ที่ 1,000 คน แต่ด้วยสถานที่จัดงานที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง จึงมั่นใจว่าจะมีผู้เข้าชมมากกว่าที่ตั้งเป้าไว้อย่างแน่นอน

ในส่วนของงานประชุมวิชาการนานาชาติ Tea & Coffee International Symposium จะเป็นการประชุม Hybrid แบบเต็มวันในวันที่ 26 มกราคม 2565 ณ ห้องประชุม Niman Convention ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกัน โดยได้เชิญนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญจากในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งกงสุลต่างประเทศมาแลกเปลี่ยน และให้ความรู้ในห้วข้อต่าง ๆ ได้แก่ A cup Of success : ความสำเร็จของ ธุรกิจชาและกาแฟในไทย บทบาทความสำคัญ ของหน่วยงานต่าง ๆ ในการมีส่วนร่วมและผลักดันอุตสาหกรรมชาและกาแฟ, Light Cup : ทิศทางตลาด ชา และกาแฟไทยกับแนวโน้มตลาดโลก, Meduim Cup : ตลาด ชาและกาแฟในไทย โอกาสและอุปสรรคในการเติบโต, Dark Cup : เจาะลึก การส่งออก และการเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ และ Special Cup : Tea and Coffee Tourism ชากาแฟกับ โอกาสในการต่อยอดอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

นอกเหนือจากนี้ ยังมีกิจกรรมพิเศษ A Cup of Country ซึ่งเป็นการนำเสนอ สาธิตการชงเครื่องดื่มชา กาแฟจากประเทศต่าง ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนและแสดงถึงทั้งคุณค่าและความยิ่งใหญ่ของเครื่องดื่มชา กาแฟที่แทรกซึม อยู่ในวิถีชีวิตของผู้คน ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมทั่วโลกมายาวนานจนถึงปัจจุบัน

ทั้งนี้ ไฮไลต์ในช่วงท้ายของงานแถลงข่าว ประธานในพิธิและหน่วยงานภาคีที่ร่วมแถลงข่าว ได้มีการสาธิตการชงกาแฟแบบไซฟ่อนโดยใช้เมล็ดกาแฟในท้องถิ่นแจกจ่ายแก่ผู้ที่เข้าร่วมและสื่อมวลชน เป็นการปิดท้าย ผู้สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดกิจกรรมต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/worldteaandcoffeeexpo