วันศุกร์, 22 พฤศจิกายน 2567

SUN ขยายลงทุนติดตั้ง “Solar Rooftop” ลดต้นทุนค่าไฟ พร้อมเดินหน้าเข้าสู่ Net Zero

05 ต.ค. 2022
294
Social Share

SUN เดินหน้าติดตั้ง Solar Rooftop คาดแล้วเสร็จปลายปี 2565 ลงในโครงการเฟสที่ 3 บนหลังคาอาคาร Mini Factory รวมพื้นที่ 892 ตารางเมตร กำลังการผลิตไฟฟ้าขนาด 186 kWp มุ่งสู่กลยุทธ์ด้านความยั่งยืน การพัฒนาเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำการเป็นผู้ผลิตอาหารปลอดภัยด้วยพลังงานสะอาด

นายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN ผู้ผลิตและส่งออกข้าวโพดหวานรายใหญ่ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ หรือ Sustainable Development Goals (SDGs) ซึ่งเป็นพันธกิจสำคัญของทุกภาคส่วนในหลายประเทศทั่วโลก ขณะเดียวกัน SUN ได้กำหนดเป้าหมายระยะยาวด้านสิ่งแวดล้อมยั่งยืน เป็นที่มาของโครงการด้านประหยัดพลังงาน ติดตั้ง Solar Rooftop เฟสที่ 3 บนพื้นที่หลังคาอาคาร Mini Factory มองว่าคุ้มค่าต่อการลงทุนจะช่วยลดใช้ไฟฟ้า ในกระบวนการผลิตได้โดยนำพลังงานแสงอาทิตย์มาผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นอีกมาตรการหนึ่งในด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมที่จะส่งเสริมให้ธุรกิจ SUN เติบโตได้อย่างยั่งยืน

โดยที่ผ่านมา SUN ได้ทำโครงการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ติดตั้ง เฟสที่ 1 เมื่อปี 2561 กำลังการผลิตไฟฟ้าขนาด 500 kWp บนหลังคาอาคาร Frozen และในปี 2563 ติดตั้ง Solar Rooftop เฟสที่ 2 กำลังการผลิตไฟฟ้าขนาด 265 kWp อาคาร Canning ของบริษัทฯ เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เอง รวมพื้นที่ 4,200 ตารางเมตร นอกจากนี้ บริษัทยังได้มีการลงโครงการผลิตก๊าซชีวภาพ (Biogas) จากซังข้าวโพดเมื่อปลายปี 2563 เพื่อนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า และเริ่มเดินระบบเมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งโครงการดังกล่าวช่วยลดต้นทุนการใช้ไฟฟ้าในโรงงาน ประหยัดพลังงาน และเป็นแนวทางในการลดของเสียในโรงงานเพื่อนำไปสู่ Zero Waste

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังมีแผนเดินหน้าต่อใน ธุรกิจพลังงานหมุนเวียนเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐและทิศทางพลังงานโลกที่มีเป้าหมายในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคม (ESG) ซึ่งในส่วนของ SUN ก็ให้ความสำคัญเรื่อง ESG มาอย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป