วันเสาร์, 23 พฤศจิกายน 2567

เพราะดวงตานั้นสำคัญไม่แพ้หัวใจ มาถนอมสายตาคู่นี้ของเรากันเถอะ

Social Share

เพราะดวงตานั้นสำคัญไม่แพ้หัวใจ มาถนอมสายตาคู่นี้ของเรากันเถอะ

                ทุกวันนี้เราใช้สายตาทำอะไรกันบ้าง แน่ละว่าคำตอบของทุกคนคือใช้มอง ใช่แล้วล่ะ เราทุกคนใช้สายตามองเห็นสิ่งต่าง ๆ รอบตัวตั้งแต่ตอนตื่นนอนยาวตลอดทั้งวัน แล้วยิ่งปัจจุบันกว่า 50% ของคนไทยทั้งประเทศ ใช้คอมพิวเตอร์ทำงาน และใช้โทรศัพท์มือถือกันหนักมาก อาจจะนานกว่า 10 ชั่วโมงต่อวันด้วยซ้ำสำหรับหลาย ๆ คน โดยที่ลืมนึกไปว่าแสงจากจอคอมพิวเตอร์และมือถือนั้นอาจทำลายประสิทธิภาพการมองเห็นของดวงตาลดลงไปเรื่อย ๆ อย่างไม่รู้ตัว และเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคทางสายตา ซึ่งบางรายนั้นฟื้นฟูได้ แต่มีอีกหลายคนถึงขั้นต้องรักษาในระยะยาวเลย

เพื่อให้ดวงตาของเรานั้น สดใส มองเห็นชัด ไม่พร่ามัว เรามาดูวิธีการถนอมสายตาและมาใช้ชีวิตประจำวันกับคอมพิวเตอร์กันอย่างถูกต้องกันดีกว่า และสำหรับใครที่ต้องทำงานหน้าจอทั้งวันต่อเนื่องกว่า 8-10 ชั่วโมง ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ลองปรับพฤติกรรมตามคำแนะนำ ดังนี้

  • หากตรงที่นั่งใช้คอมพิวเตอร์มีลมพัดไม่ว่าจะลมจากแอร์หรือพัดลม ให้ย้ายหรือปรับตำแหน่งไม่ให้ลมโดนดวงตาระหว่างใช้คอมพิวเตอร์ได้ และควรกระพริบตาบ่อย ๆ หากรู้สึกเคืองตา
  • ควรหยุดพักสายตาทุก ๆ 30 นาที หลังจากจ้องคอมพิวเตอร์ อาจจะเดินไปเข้าห้องน้ำ เดินเล่น ชมวิวทิวทัศน์หรือมองไปรอบ ๆ ในบริเวณกว้าง ยิ่งหากมีป่า มีสวนสีเขียว จะช่วยปรับแสงและสภาพทางสายตาได้ เพราะเป็นสีโทนเย็น
  • ปรับความสว่างของหน้าจอให้เหมาะสม สว่างเกินไปใช่ว่าจะดี เพราะนอกจากจะทำให้แสบตาแล้ว ยังทำให้เกิดอาการเคืองตาหรือตาแห้งได้ และที่สำคัญสำหรับคนที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นประจำ ควรจะมีน้ำตาเทียมพกติดตัวไว้เสมอ เพราะช่วยลดอาการตาแห้งหรือเคืองตาได้ โดยเฉพาะผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์

“ตาแห้ง” โรคฮิตของคนติดจอ

ว่ากันด้วยเรื่องของตาแห้ง สามารถเกิดได้กับทุกคนและทุกวัย สาเหตุคือต่อมน้ำตาไม่สามารถผลิตน้ำตาออกมาได้เพียงพอ เพราะว่าพฤติกรรมการติดจอทำให้รบกวนความชุ่มชื้นของดวงตามากเกินไป นำไปสู่การอักเสบ ระคายเคืองได้ และมีอาการแสบตาคันตา รู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่เปลือกตา เริ่มมองสิ่งรอบข้างไม่ชัด สู้แสงได้ไม่ชัด และมีอาการตาแดงร่วม ขี้ตาเหมือนเป็นเมือกเหนียว บางรายอาจเคืองตาจนน้ำตาไหลได้

แต่สำหรับกลุ่มเสี่ยงตามปกติที่จะมีภาวะตาแห้งคือ ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง เพราะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในขณะตั้งครรภ์ หรือการใช้ยาคุมกำเนิด และผู้ที่ขาดวิตามินเอหรือกรดโอเมก้า 3 รวมไปถึงผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์และผ่านการทำเลสิคมาก่อน

การรักษาภาวะตาแห้ง สามารถทำอย่างไรได้บ้าง

หากใครที่มีภาวะตาแห้งแล้วต้องไปโรงพยาบาล การรักษาจากแพทย์จะรักษาตามอาการและพิจารณาตามความรุนแรงด้วย เช่น การให้น้ำตาเทียม, การใช้ยาลดการอักเสบของเปลือกตา, การให้ยากลุ่มสเตียรอยด์หรือยากดภูมิ Cyclosporine, ยากระตุ้นการสร้างน้ำตา และการใช้ซีรัมของตัวเอง  (Autologous Serum เป็นการนำเลือดของผู้ป่วยสกัดมาทำเป็นยาหยอดตา) หรือหากกรณีร้ายแรง อาจใช้การรักษาด้วยแสง IPL (Intense Pulse Light)

ส่วนการรักษาอื่น ๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง คือ การประคบตาด้วยน้ำอุ่น ช่วยลดการเกิดการอุดตันของต่อมไขมันที่เปลือกตา หรือจะเป็นการนวดเปลือกตาบ่อย ๆ ก่อนนอน หรือตื่นมาตอนเช้า หมั่นล้างทำความสะอาดเปลือกตาเพื่อกำจัดเชื้อโรคและสิ่งสกปรกที่ต้องเจอมาทั้งวัน

การป้องกันภาวะตาแห้งเบื้องต้น

  • หยุดพักสายตาหลังจากจ้องจอนานเกิน 30 นาที ด้วยการกระพริบตาถี่ ๆ หรือหลับตาพักประมาณ 1-2 นาที
  • ตั้งหน้าจอคอมให้อยู่ต่ำกว่าระดับของสายตา เพื่อลดการระเหยของน้ำตาและควรเบิกตากว้างขึ้น หากต้องเงยหน้าขึ้นดูจอที่อยู่ระดับสูงกว่าดวงตา
  • หลีกเลี่ยงการใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลานาน หรือเกิน 8 ชั่วโมง ควรรีบถอดล้างทำความสะอาดเพื่อพักสายตา
  • ไม่สูบบุหรี่ ไม่อยู่ใกล้ผู้ที่สูบบุหรี่

วิธีถนอมและบำรุงสายตา

นอกจากจะป้องกันและหลีกเลี่ยงแสง ลมพัด ควัน และปรับพฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์แล้ว ยังมีวิธีการฟื้นฟูสายตาให้กลับมาแข็งแรง และชะลออาการเสื่อมของสายตาด้วยการทานอาหาร อาหารที่มีวิตามินเอจะดีต่อสายตามาก และจะมีอยู่ในตับ ไข่แดง นม น้ำมันตับปลา ผักใบเขียว ผลไม้สีส้ม-เหลือง เช่น มะละกอสุก ชะอม โหระพา แครอท ผักคะน้า ผักโขม ผักบุ้ง ฟักทอง และบร็อกโคลี่ เป็นต้น

สำหรับการนั่งดูโทรทัศน์ ควรนั่งให้ห่างจากจอประมาณ 4-5 เท่าของความกว้างโทรทัศน์ และปรับแสง สี การแสดงผลหน้าจอให้สว่างพอเหมาะ และควรถนอมดวงตาด้วยการไม่ควรนั่งอ่านหนังสือขณะนั่งรถ เพราะทำให้ต้องปรับโฟกัสอยู่ตลอดเวลา พฤติกรรมลักษณะนี้ทำร้ายดวงตายิ่งกว่าการใช้จอคอมพิวเตอร์นานๆ เสียอีก

สาเหตุที่ดวงตาจะเสื่อมประสิทธิภาพในการมองเห็นนั้น อาจจะไม่ขึ้นอยู่กับอายุเสมอไป เพราะขนาดเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี ยังเกิดภาวะตาแห้งหรือสายตาสั้นก่อนวัยอันควรได้ ฉะนั้นไม่ว่าจะใช้คอมพิวเตอร์หรือมือถือเพื่อดูหนังหรือเล่นเกม ควรพักช่วงไม่ควรจ้องจอนาน ๆ ติดต่อกัน และหากเพื่อน ๆ คนไหนติดเกมออนไลน์และไม่อยากพลาดโอกาสรับโปรโมชันดี ๆ คลิกเข้ามารับเครดิตฟรีแค่สมัครสมาชิกก่อนได้ เอาทุนฟรีไว้ก่อน ให้เวลาพักสายตา ถนอมดวงตาให้สดใสให้ใช้งานได้นาน ๆ ดีกว่า แล้วค่อยกลับมาเล่นเกม ยังไงเงินรางวัลและความสนุกก็รอแจกให้เพื่อน ๆ แน่นอน

เครดิตภาพ : kapook.com / thairath.co.th / kazz-magazine.com