วันจันทร์, 25 พฤศจิกายน 2567

(คลิป) เชียงใหม่ รักต้องฆ่า หนุ่มฆ่าโหดใช้มีดแทงแฟนดับคารถ ก่อนรมควันตัวเองตายตาม

Social Share

หนุ่มหึงโหด ใช้มีดแทงแฟนสาววัย 24 ปีตายในรถก่อนรมควันฆ่าตัวตายตาม พบข้อความเขียนระบายหน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้งในหอพักของฝ่ายชาย บอกเพราะรักต้องฆ่า พบฝ่ายชายเป็นคนขี้หึงเพราะฝ่ายหญิงหน้าตาดี จนต้องขังไว้ในห้องไม่ยอมให้ออกไปไหน

วันที่ 31 มี.ค. 64 พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ว่าเกิดเหตุการณ์เศร้าสลด มีผู้เสียชีวิตภายในรถ 2 ราย คาดอาจจะถูกฆาตกรรม โดยจุดเกิดเหตุอยู่ภายในวอยย่านถนนโพธาราม ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ภายหลังได้รับรายงาน จึงได้เดินทางไปร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ช้างเผือก เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ แพทย์แผนกนิติเวชโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิรวมใจ อปพร.เชียงใหม่

ในจุดเกิดเหตุได้พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นแลนเซอร์ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจอดอยู่ริมถนน บริเวณกระจกหน้ารถ และด้านข้างรถถูกคลุมด้วยผ้าจากด้านในเพื่อไม่ให้มองเห็น ส่วนรถถูกล็อกจากด้านใน แต่มีกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากตัวรถเป็นระยะ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ใช้อุปกรณ์ทำการเปิดประตูรถอยู่นานแต่ไม่สามารถเปิดได้ สุดท้ายจึงได้ตัดสินใจใช้ชะแลงมาทุบกระจกด้านหลังเพื่อปลดล็อกประตูจากด้านใน

หลังเปิดประตูรถได้เจ้าหน้าที่พบศพชายนอนเสียชีวิตขึ้นอืดอยู่ในรถ บริเวณที่นั่งคนขับเบาะพับเอนไปข้างหลัง สภาพศพไม่สวมเสื้อ สวมแต่กางเกงนอนขายาว ส่วนภายในรถเจ้าหน้าที่พบหม้อหุงข้าวด้านในมีถ่านที่มอดแล้ววางอยู่บริเวณที่พักเท้าคนขับ ส่วนด้านข้างศพผู้ชาย มีกองผ้าห่ม และผ้าปูที่นอนม้วนอยู่เมื่อแกะออกก็พบศพผู้หญิงสภาพศพขึ้นอืดเช่นกัน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังขวดเบียร์วางอยู่บริเวณที่พักเท้าฝั่งผู้โดยสารด้านหลัง ใกล้กับศพผู้หญิง รวมทั้งเกลอนทินเนอร์ ยาเบื่อหนู มีดคัดเตอร์ และมีดพกสปาตาร์ ปลายมีดมีรอยคราบเลือด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ชายผู้ตาย คือ นายวสุภัทร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ชาวอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนฝ่ายหญิง คือ นางสาวเบญจพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ชาวตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ จากการชันสูตรเบื้องต้นศพนายวสุภัทร ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย แต่ศพของนางสาวเบญจพร มีร่องรอยถูกแทงที่บริเวณคอ และหน้าอกจนเป็นรู

ขณะที่การตรวจสอบภายในห้องพักชั้น 3 ของหอพักแห่งหนึ่งที่ทั้งสองคนเช่าพักอยู่ ใกล้กับจุดที่พบศพ ภายในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้ แต่บริเวณกระจกที่โต๊ะเครื่องแป้ง มีข้อความเขียนด้วยลิปสติกสีแดง ว่า ” ฆ่าเพราะรัก เพราะรักจึงต้องฆ่า จริงๆเราสองคนทะเลาะกันบ่อยมาก แต่มั้ยเคยจะรุนแรง มันเป็นเพราะอารมณ์ของแหม่มที่เมา และของผม……..วันนี้ไม่รู้เป็นเพราะอะไรเราทะเลาะกันแรง สุดท้ายแหม่มบอกให้ผมฆ่า จึงฆ่าให้ตามไปเลย” เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกภาพ และเก็บหลักฐานภายในห้องเพื่อนำไปตรวจสอบ

ด้านผู้เช่าหอพักรายหนึ่ง บอกว่า ทั้งสองคนเป็นแฟนกัน และมาเช่าหอพักดังกล่าวอยู่ได้ประมาณ 5 -6 เดือน ตลอดเวลาที่อยู่มักได้ยินเสียงทั้งสองคนทะเลาะกันบ่อยครั้ง และฝ่ายชายมักจะขังฝ่ายหญิงไว้ในห้องไม่ยอมให้ออกมา เมื่อวันเสาร์ตนเองขี่รถจักรยานยนต์กลับหอเห็นรถสีแดงคันนี้จอดอยู่เยื้องหอพัก และสตาร์เครื่องไว้แต่เอาผ้าคลุมรถไว้ จึงไม่ได้สงสัยอะไร แต่ 2 วันก่อนเริ่มได้กลิ่นเหม็นโชยออกมา กระทั่งวันนี้จึงแจ้งเจ้าของหอมาตรวจสอบแต่ไม่สามารถเปิดประตูรถได้ จึงไปเรียกผู้ตายที่ห้อง เมื่อเคาะห้องไม่มีคนตอบรับและห้องก็ไม่ได้ล็อก จึงกลับมาดูที่รถอีกครั้ง ก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าอย่างแรง คาดว่าจะมีคนเสียชีวิตในรถ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

ทางด้าน นางธันยารัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี พี่สาวของนายวสุภัทร ซึ่งเดินทางมาดูศพ กล่าวว่า ติดต่อน้องชายตั้งแต่วันเสาร์ เพื่อให้น้องชายมาส่งน้ำ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ปกติน้องชายเป็นคนอารมณ์ร้อนและขี้หึง เพิ่งจะคบหาและอยู่กันกับฝ่ายหญิงได้ประมาณ 1 ปี โดยฝ่ายหญิงนั้นเคยมีสามีและลูกแล้ว 1 คนและเป็นคนหน้าตาดี ที่ผ่านมาทั้งคู่มักจะทะเลาะกันบ่อยครั้ง และทุกครั้งน้องชายมักจะโพสต์ข้อความระบายในเฟซบุ๊ก ว่า อยากฆ่าตัวตาย ตนเคยบอกให้เลิกเพราะถ้าคบต่อไปอาจเกิดปัญหา แต่น้องชายก็ไม่ยอมเลิก แต่พากันย้ายมาอยู่ที่หอพักดังกล่าว จนสุดท้ายเกิดเหตุสลดขึ้น

พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคาดว่าสาเหตุเพราะความหึงหวง โดยเหตุน่าจะเกิดช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมา ฝ่ายชายเกิดทะเลาะกับฝ่ายหญิงในรถ ก่อนจะใช้มีดแทงฝ่ายหญิงเสียชีวิต จากนั้นจึงกลับขึ้นไปที่ห้องพักเขียนข้อความไว้ที่หน้ากระจก และนำผ้าห่มกับผ้าปูที่นอนมาห่อร่างฝ่ายหญิงไว้ จากนั้นตัวเองก็รมควันในรถเพื่อฆ่าตัวตายตามโดยใช้เนอร์ในการจุดไฟ ส่วนยาเบื่อหนูต้องส่งศพไปผ่าชันสูตรอีกครั้งให้แน่ชัดว่า ฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงที่เป็นคนกินยาเบื่อหนูเข้าไป

หลังชันสูตรศพเบื้องต้น ได้มอบศพให้กู้ภัยนำส่งแผนกนิติเวช โรงพยาบาลมหาราช เพื่อผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจนอีกครั้ง พร้อมประสานญาติของทั้งสองมารับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
I LOVE FLOWER FARM เตรียมเปิดทุ่งดอกไม้ 4 โซน รับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น 12 ต.ค. 66 นี้
ห้ามพลาด ชลประทานเชียงใหม่ ชวนนักตกปลา “ล่าชะโดยักษ์” จิบกาแฟสันเขื่อนอ่างแม่จอกหลวง
(มีคลิป) ชาวอำเภอเชียงดาว เปิดประเพณีเดินเข้าถ้ำเชียงดาวขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองเนื่องในวันวิสาขบูชา
(มีคลิป) เจ้าอาวาสวัดโลกโมฬี ตั้งโต๊ะแจกถุงยังชีพนับร้อยชุด ช่วยเหลือผู้เดือดร้อนจากวิกฤติโควิ-19
รก.อธิการบดี มทร.ล้านนา ร่วมการประชุมติดตามการดำเนินงานในพื้นที่โครงการหลวง สืบสานศาสตร์พระราชา ต่อยอดงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
คลัสเตอร์ตลาดเมืองใหม่พบผู้ติดเชื้อพุ่งสูงถึง 172 ราย และมีคลัสเตอร์ย่อยที่เชื่องโยงกับตลาดเมืองใหม่แล้ว 10 คลัสเตอร์