วันอังคาร, 26 พฤศจิกายน 2567

ตำรวจภาค 5 แถลงจับ 3 เครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ ยึดยาได้ล้านเม็ด ไอซ์ 150 กิโล เงินสด 5 ล้านกว่าบาท

Social Share

วันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม 2563 เวลา 10.30 น. พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ท.บุญยืน อินกว่าง มทน.3/ผบ.ศป.บส.ชน., พล.ต.สุรจิตร สุขีเมฆ รอง ผบ.ศป.บส.ชน.(1), พล.ต.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผบ.กกล.ผาเมือง, พล.ต.จรัส ปัญญาดี ผบ.พล.ร.7, นายรัฐพล นราดิศร รอง ผวจ.เชียงใหม่, นายไกรเลิศ ดาวเรือง ผอ.ป.ป.ส.ภาค 5 และ นายนิโรจน์ โง้วเจริญสุข นายด่านศุลกากรเชียงแสน ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมคดีรายสำคัญ 3 คดี ผู้ต้องหา 10 คน รวมของกลาง ยาบ้า 1,000,000 เม็ด, ไอซ์ 150 กิโลกรัม, เคตามีน 10 กิโลกรัม และ เงินสด 5,494,500 บาท

คดีที่ 1 เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2563 เจ้าหน้าที่ศุลกากรเชียงแสน ร่วมกับ สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย ได้สืบสวนติดตามผู้ต้องหาว่ามีพฤติการณ์ลักลอบนำเงินตราประเทศไทยส่งออกนอกราชอาณาจักร จนกระทั่งวันเกิดเหตุรับแจ้งว่าจะมีการนำเงินส่งออกนอกราชอาณาจักรบริเวณท่าเรือผ่อนปรนหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบชาวลาวนำเรือมาเทียบท่า และพบผู้ต้องหาเดินลงมา จึงได้แสดงตัวและขอทำการตรวจค้น พบเงินสดของกลางบรรจุอยู่ในกล่องพัสดุไปรษณีย์ จำนวนเงิน 5,494,500 บาท และจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย คือ นายสุกันทา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ภูมิลำเนาอยู่ อ.เมือง จ.พะเยา จับกุมในข้อกล่าวหา พยายามนำเงินตรา(ธนบัตรไทย)ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ

คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2563 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากอาสาทำดีไม่ประสงค์ออกนาม ว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดจากช่องทางบ้านเอดิ (พม่า)-บ้านปูนะ (ไทย) ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย แล้วลำเลียงเข้าพื้นที่ตอนในใช้เส้นทางเลี่ยงด่านตรวจ บก.ควบคุม ปส.4 แม่ฯ และ สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย จึงได้จัดวางกำลังและชุดลาดตระเวน ตามเส้นทางที่คาดว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติด จนกระทั่งถึงบริเวณที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ลำเลียงยาเสพติด และรถนำจำนวน 4 คัน พบชาย 8 คน เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าแสดงตัวเพื่อทำการการตรวจสอบ พบของกลาง 7 กระสอบ เป็นไอซ์ น้ำหนักประมาณ 150 กิโลกรัม และเคตามีน น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม จึงได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด 8 คน คือ นายสมพงศ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี, นายสมบูรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี, นายฮ้อสี่ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี ภูมิลำเนาอยู่ ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย, นายจะแซ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี, นายป่าสอ (ไม่มีนามสกุล) อายุประมาณ 19 ปี, นายจะไซ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี, นายแอฟู (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ภูมิลำเนาอยู่ ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย และนายไอ่จู หรือแอจู (ไม่มีนามสกุล) อายุ 30 ปี อยู่เมืองยอน ประเทศเมียนมาร์ พร้อมของกลาง ไอซ์ ประมาณ 150 กิโลกรัม, เคตามีน ประมาณ 10 กิโลกรัม, รถยนต์ 1 คัน รถจักรยานยนต์ 6 คัน โทรศัพท์มือถือ 8 เครื่อง จับกุมนข้อกล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” และควบคุมตัวทั้ง 8 คน พร้อมของกลางนำส่ง พงส.สภ.แม่ฟ้าหลวง จว.เชียงราย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 3 เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2563 ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจห้วยไร่ สภ.ห้วยไร่ จ.แพร่ ปฏิบัติหน้าที่ ได้มีรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไทเกอร์ สีน้ำตาล ป้ายทะเบียนกรุงเทพมหานคร ขับมาจาก อ.เด่นชัย มุ่งหน้าไปทาง จ.อุตรดิตถ์ ขับเข้ามายังด่านตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ให้สัญญาณหยุดรถ โดยมีนายพง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จ.ตาก เป็นคนขับ ซึ่งนายพง ได้แสดงอาการมีพิรุธ โดยเลี่ยงไม่นำรถเข้าจอดบริเวณจุดตรวจค้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกให้ถอยรถเข้าไปยังจุดตรวจค้น และได้ร่วมกันตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบวัตถุบรรจุในถุงใส่ขยะสีดำซุกซ่อนอยู่ในบริเวณที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังคนขับโดยใช้ผ้าห่มปิดอำพรางไว้ จึงตรวจค้นโดยละเอียดพบถุงขยะสีดำจำนวน 5 ถุง เมื่อเปิดแต่ละถุงพบกระสอบปุ๋ยสีฟ้าอีกชั้นหนึ่ง ในกระสอบปุ๋ยสีฟ้ามีกระสอบฟางสีรุ้งอีกชั้นหนึ่ง รวมยาเสพติดของกลางกระสอบละประมาณ 200,000 เม็ด รวมยาเสพติดของกลาง ทั้งสิ้นประมาณ 1,000,000 เม็ด และตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง เงินสด 20,000 บาท พร้อมรถยนต์ที่เป็นพาหนะลักลอบขนยาเสพติด 1 คัน ไว้เป็นหลักฐาน และจากการสอบถามเบื้องต้นผู้ต้องหารับว่าได้รับจ้างขนยาเสพติดดังกล่าวเพื่อจะไปส่งที่ จ.อุตรดิตถ์ แต่มาถูกจับกุมได้ก่อน ภายหลังการสอบสวนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” และควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยไร่ จ.แพร่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชนได้ร่วมกันสอดส่องดูแลบุตรหลาน บุคคลใกล้ชิด หรือบุคคลที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน โดยแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด 1599, สายด่วน 191, line@inthanon1(ผบช.ภ.5) และ Application Police I lert U ได้ตลอด 24 ชม. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น เพื่อให้สังคมต้องมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติด ต่อไป