วันจันทร์, 25 พฤศจิกายน 2567

6 และ 14 ตุลาคม ชวนจับตา “ดาวอังคารใกล้โลกและอยู่ตรงข้ามดวงอาทิตย์” 

Social Share

6 และ 14 ตุลาคม ชวนจับตา “ดาวอังคารใกล้โลกและอยู่ตรงข้ามดวงอาทิตย์” 

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ชวนจับตา “ดาวอังคารใกล้โลกที่สุด” 6 ตุลาคม 2563 และ “ดาวอังคารอยู่ตำแหน่งตรงข้ามดวงอาทิตย์” 14 ตุลาคม 2563 ปรากฏสีส้มแดงสว่างเด่นชัด ตลอดคืนจนถึงรุ่งเช้า หากฟ้าใสไร้ฝนสังเกตเห็นด้วยตาเปล่าทั่วไทย เตรียมจัดส่อง “ดาวเคราะห์แดง” 4 จุดสังเกตการณ์หลัก ได้แก่ เชียงใหม่ นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา สงขลา ชมพื้นผิวและขั้วน้ำแข็งดาวอังคารผ่านกล้องโทรทรรศน์ พิเศษ!! ถ่ายทอดสดปรากฏการณ์ทางเฟซบุ๊ก NARITPage

ภาพถ่ายดาวอังคารที่ยังปรากฏไม่เต็มดวง มองเห็นแผ่นน้ำแข็งบริเวณขั้วใต้และรายละเอียดพื้นผิวได้ชัดเจน

บันทึกโดยกล้องโทรทรรศน์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.4 เมตร ณ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา เมื่อ 24 ก.ย. 63 ที่ผ่านมา

นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ หัวหน้างานบริการวิชาการทางดาราศาสตร์ สดร. กล่าวว่า ช่วงเดือนกันยายนหากสังเกตท้องฟ้าทางทิศตะวันออกในตอนกลางคืน จะเริ่มเห็นดาวอังคารสว่างเด่นชัดอยู่บนท้องฟ้า เป็นสัญญาณให้รู้ว่าดาวอังคารจะกลับมาใกล้โลกอีกครั้ง ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมในการสังเกตการณ์ดาวอังคารใกล้โลกที่สุดคือ ช่วงวันที่ 6 – 14 ตุลาคม 2563 โดยดาวอังคารจะโคจรอยู่ในตำแหน่งใกล้โลกที่สุดในวันที่ 6 ตุลาคม ห่างจากโลกประมาณ 62 ล้านกิโลเมตร ค่าอันดับความสว่างปรากฏอยู่ที่ประมาณ -2.6 (ค่าอันดับความสว่างปรากฏของดวงจันทร์เต็มดวงประมาณ -12.6) สังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่หากมองผ่านกล้องโทรทรรศน์ขนาด 10 นิ้ว กำลังขยายตั้งแต่ 100 เท่าขึ้นไป จะเห็นพื้นผิวดาวอังคารได้อย่างชัดเจน จากนั้นดาวอังคารจะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามดวงอาทิตย์ (Mars Opposition) ในวันที่ 14 ตุลาคม หมายถึง ดวงอาทิตย์ โลก และดาวอังคารจะเรียงตัวอยู่ในเส้นเดียวกัน เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตก ดาวอังคารจะโผล่ขึ้นจากขอบฟ้าทางทิศตะวันออกพอดี มีระยะทางห่างจากโลกประมาณ 62.7 ล้านกิโลเมตร ทำให้สามารถสังเกตการณ์ดาวอังคารได้ตลอดทั้งคืนจนถึงรุ่งเช้าของวันถัดไป

ดาวอังคารเป็นดาวเคราะห์ในระบบสุริยะลำดับที่ 4 มีขนาดเล็กกว่าโลกครึ่งหนึ่ง พื้นผิวปกคลุมไปด้วยฝุ่นสนิมเหล็ก จึงเห็นปรากฏเป็นสีส้มแดงเป็นที่มาของชื่อ Mars ในภาษาอังกฤษที่ตั้งตามชื่อเทพเจ้าแห่งสงครามของกรีกโรมัน พื้นผิวดาวมีสภาพคล้ายทะเลทราย แต่มีอุณหภูมิต่ำ เป็นดาวเคราะห์ที่คาดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะพบสิ่งมีชีวิตมากที่สุด วงโคจรของดาวอังคารค่อนข้างรีเมื่อเทียบกับดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ทำให้ระยะห่างของดาวอังคารในช่วงใกล้โลกแต่ละครั้งไม่เท่ากัน ซึ่งดาวอังคารจะเข้าใกล้โลกในทุก ๆ 2 ปี 2 เดือน และจะเข้าใกล้โลกมากที่สุดทุก ๆ 15 – 17 ปี

นายศุภฤกษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับสังเกตการณ์ดาวอังคาร เพราะมีระยะทางที่เข้าใกล้โลก และมีความสว่างมาก มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจน สดร. เตรียมจัดสังเกตการณ์ “ดาวอังคารใกล้โลกมากที่สุด” วันอังคารที่ 6 ตุลาคม 2563 และ “ดาวอังคารอยู่ตำแหน่งตรงข้ามกับดวงอาทิตย์” ในวันพุธที่ 14 ตุลาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 18:00 – 22:00 น. จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจมาร่วมส่องดาวเคราะห์แดงผ่านกล้องโทรทรรศน์ สังเกตพื้นผิวดาวอังคารและน้ำเเข็งขั้วใต้บนดาวอังคาร พร้อมส่องวัตถุท้องฟ้าที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ กระจุกดาวทรงกลม M4 กระจุกดาวคู่ กาแล็กซีแอนโดรเมดา ณ 4 จุดสังเกตการณ์หลัก ได้แก่
1) เชียงใหม่ : อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โทร. 081-8854353
2) นครราชสีมา : หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ นครราชสีมา โทร. 044-216254
3) ฉะเชิงเทรา : หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ ฉะเชิงเทรา โทร. 038-589395
4) สงขลา : หอดูดาว เฉลิมพระเกียรติฯ สงขลา โทร. 095-1450411

นอกจากนี้ ยังร่วมกับเครือข่ายดาราศาสตร์ที่ได้รับมอบกล้องโทรทรรศน์ ในโครงการกระจายโอกาสการเรียนรู้ดาราศาสตร์อีก 460 แห่งทั่วประเทศ นำกล้องโทรทรรศน์มาจัดกิจกรรมสังเกตการณ์แก่นักเรียนและประชาชนในชุมชนใกล้เคียงที่สนใจมาร่วมสังเกตการณ์ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ในครั้งนี้ด้วย ตรวจสอบรายละเอียดได้ทาง http://bit.ly/MemberList-NARIT-DobsonianTelescope2020

พิเศษ! พบกับ Night at the museum เปิดให้เข้าชมนิทรรศการดาราศาสตร์และท้องฟ้าจำลองช่วงกลางคืน ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย ยกเว้นการเข้าชมท้องฟ้าจำลอง มีค่าธรรมเนียม : เด็ก 30 บาท ผู้ใหญ่ 50 บาท ทั้ง 4 แหล่งการเรียนรู้ดาราศาสตร์ พร้อมเตรียมชมถ่ายทอดสดดาวอังคารใกล้โลกผ่านช่อง NARIT Facebook Live ได้ทาง www.facebook.com/NARITPage

งานประชาสัมพันธ์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)

โทร. 053-121268-9 ต่อ 210-211 , 081-8854353 โทรสาร 053-121250 

E-mail: pr@narit.or.th  Website : www.narit.or.th

Facebook : www.facebook.com/NARITpage

Twitter : @NARIT_Thailand,  Instagram : @narit_thailand

Call Center กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม โทร. 1313