วันอาทิตย์, 24 พฤศจิกายน 2567

(คลิป) จารุชาติ หนึ่งในพยานสำคัญคดี “บอส” เกิดอุบัติเหตุรถชนกลางดึกเสียชีวิตที่เชียงใหม่

Social Share

จารุชาติ หนึ่งในพยานสำคัญคดี “บอส” เกิดอุบัติเหตุรถชนกลางดึกเสียชีวิตที่เชียงใหม่ น่าเศร้า ลูกสาวพร้อมญาติเดินทางมารับศพสูญเสียคนสำคัญในครอบครัว ยอมรับไม่ทราบเรื่องคดี พร้อมนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเชียงราย

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 30 ก.ค. 63 : ที่หน้าหน่วยรักษาศพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ลูกสาวของนายจารุชาติ​ พร้อมด้วยญาติได้เดินทางมาติดต่อขอรับศพ นายจารุชาติ​ มาดทอง อายุ 40 ปี ที่ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชน เป็นเหตุให้เสียชีวิต ซึ่งนายจารุชาติ ถือเป็นพยาน 1 ใน 2 คนสำคัญคดีของ “บอส” ที่ได้ให้ปากคำว่าบอส ไม่ได้ขับรถเกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

โดยบรรยากาศที่ด้านหน้าหน่วยรักษาศพเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ทางญาตพบว่า สภาพใบหน้าของนายจารุชาติ ยังคงปกติ แต่มีเลือดออกที่ศีรษะและหู หลังจากที่นำร่างของนายจารุชาติ บรรจุในโลงศพ พร้อมว่าจ้างให้รถของหน่วยรักษาศพไปส่ง เพื่อเคลื่อนย้ายไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านหมู่ที่ 15 ต.ม่วงคำ อ.พาน จ.เชียงราย คาดว่าจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ตลอดการเดินทางนั้น ทางครอบครัวก็ได้นำเหรียญมาโปรยระหว่างทางด้วย

สำหรับบริเวณที่เกิดเหตุ พบเศษกระจกรถ และถุงมือของเจ้าหน้าที่กู้ชีพที่ถอดวางไว้อยู่บริเวณที่เกิดเหตุเท่านั้น ส่วนรอยเลือดหรือร่องรอยอย่างอื่นไม่พบที่เกิดเหตุ

ด้าน พ.ต.อ.รณชัย รอดลอย ผกก.สภ.ภูพิงค์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุพบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.50 น. นายจารุชาติ มาดทาง ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 เอส สีเทา-ดำ หมายเลขทะเบียน ครข 221 เชียงใหม่ มาตามถนนสายห้วยแก้ว มุ่งหน้าเข้ากลางเมืองเชียงใหม่ เมื่อมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ ก่อนถึงสามแยกไฟแดงฟ้าธานี ได้มีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีม สีดำ หมายเลขทะเบียน 7ค 2340 เชียงใหม่ โดยมีชายคนหนึ่งขับอยู่ด้านหน้า ซึ่งนายจารุชาติ ผู้ตายได้ขับขี่รถไปชนเข้าบริเวณท้ายด้านซ้ายของรถคู่กรณีที่อยู่ด้านหน้า ก่อนรถจะเสียหลักแฉลบล้มลงไปด้านขวา แล้วศีรษะไปกระแทกเข้ากับคอนกรีตเกาะกลางถนน จากนั้นทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพได้นำตัวผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมาในเวลาประมาณ 04.50 น.

สำหรับคู่กรณีของนายจารุชาติ ได้รับบาดเจ็บปานกลาง ทางแพทย์ได้ทำการรักษาและอนุญาตให้กลับบ้านไปแล้ว ซึ่งจากการสอถามเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้ไปกินเหล้ามาเหมือนกันและกำลังจะไปเที่ยวต่อ ขณะขับรถมาถึงใกล้จุดเกิดเหตุ รถของผู้ตายพยายามที่จะแซง แต่ก็มาเกิดอุบ้ติเหตุเสียก่อน และพึ่งมาทราบว่า คู่กรณีนั้นเสียชีวิตแล้ว

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งสืบสวนเบื้องลึกเพิ่มเติมว่าเพื่อให้เกิดความกระจ่างมากขึ้น และพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ส่วนเรื่องบาดแผลของผู้เสียชีวิต ก็พบว่ามาจากการเกิดอุบัติเหตุไม่ได้มาจากการถูกทำร้ายแน่นอน

ด้านลูกสาวของนายจารุชาติ เปิดเผยว่า ตนไม่ได้เจอพ่อมาหลายเดือนแล้ว ซึ่งเจอกันล่าสุดคือวันเกิดของตนเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และเป็นครั้งเดียวที่เจอกัน ซึ่งตนเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว พ่อทำงานไม่เป็นหลักแหล่ง ทราบว่าพึ่งไปทำงานที่ไต้หวันอยู่ 3 – 4 ปี ก่อนจะกลับมาททำงานที่เชียงใหม่ และมาเสียชีวิต ส่วนที่ว่าพอมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี ตนยอมรับว่าไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นเลย พ่อไม่เคยเล่าให้ฟัง และไม่เคยรู้ว่าพ่อไปเป็นพยานในคดีที่เกิดขึ้น

ในขณะที่ญาติของนายจารุชาติ กล่าวเสริมว่า ผู้ตายทำงานไม่เป็นหลักแหล่ง เมื่อก่อนทำงานอยู่กรุงเทพฯ ก่อนจะเดินทางไปทำงานที่ไต้หวัน 3 – 4 ปี ก่อนจะกลับมาทำงานที่เชียงใหม่ มาเป็นพนักงานขับรถ แต่ไม่ทราบว่าทำงานที่ไหน ลักษณะงานเป็นยังไง ส่วนทางด้านคดีทางญาตก็ไม่ทราบ กระทั่งได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุและนายจารุชาติ เสียชีวิต จึงเดินทางมารับศพ

Cr. เจ้าหน้าที่กู้ชีพ, ตร.สภ.ภูพิงค์