วันอาทิตย์, 24 พฤศจิกายน 2567

(คลิป) โรงแรมในเชียงใหม่ สู้วิฤกติโควิด19 ไม่ไหว ปิดไปแล้ว 99 เปอร์เซ็นต์

Social Share

โรงแรมในเชียงใหม่ยังคงปิดกิจการหลังสู้วิฤกติโควิด19 ไม่ไหว ปิดไปแล้ว 99 เปอร์เซ็นต์ พร้อมขอให้รัฐขยายเวลาในการเยียวยาเพิ่ม และรอมาตรการผ่อนปรนเฟส 4 ที่อยากให้เปิดจัดประชุมสัมมนาในโรงแรมได้

5 มิ.ย. 63 : ที่จังหวัดเชียงใหม่จากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจหลายอย่างโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโรงแรมหลายแห่งเริ่มเข้าสู่ห้วงภาวะถดถอยไม่มีนักท่องเที่ยวทั้งต่างชาติและคนไทยมาพักจนต้องหยุดกิจการชั่วคราวและยังส่งผลกระทบให้พนักงานต้องตกงานเป็นจำนวนมากเพราะโรงแรมแบกรับภาระไม่ไหวจึงทำให้โรงแรมเกือบทุกจังหวดเช่นเดียวกับโรงรมในจังหวัดเชียงใหม่ที่ต้องปิดการให้บริการไปในช่วงนี้ถึงแม้ว่าโรงแรมจะอยู่ในย่านเศรษฐกิจใจกลางเมืองเชียงใหม่ก็ตาม ขณะเดียวกันบริเวณไนท์บาร์ซ่าซึ่งถือได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเป็นย่านเศรษฐกิจขึ้นชื่อที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจะต้องมาท่องเที่ยวเลือกซื้อจับจ่ายสิ่งของกันแต่จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด19ทำให้บรรยากาศในย่านดังกล่าวเงียบเหงาไม่มีนักท่องเที่ยวคึกคักเหมือนแต่ก่อน

นางละเอียด บุ้งศรีทอง นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมทั้งโรงแรมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่กว่า 2,200 แห่ง ต้องประกาศหยุดให้บริการชั่วคราวไปแล้วกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงมากในช่วงที่ไม่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเลยจึงทำให้รายได้ต้องการเป็นศูนย์และรายได้หลักยังคงเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเช่นนักท่องเที่ยวชาวจีนและจากชาติแถบยุโรป

นางละเอียด ยังกล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของโรงแรมรติล้านนานั้นซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว ก็ปิดดำเนินการชั่วคราวเช่นกันและในเวลาที่ปิดให้บิการชั่วคราวนี้ก็ได้ทำการปรับปรุงตกแต่งภายในเพิ่มเติมเพื่อเตรียมพร้อมที่จะกลับมาเปิดให้บริการได้โดย คาดว่าวันที่ 1 กรกฎาคมนี้จะกลับมาเปิดให้บริการได้พร้อมทั้งเข้มงวดมาตราการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19นี้ด้วย

ขณะเดียวกันก็ได้ส่งเรื่องไปยังท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อให้พิจารณาขยายเวลาเรื่องมาตรการเยียวยาเพิ่มเติมด้วย เนื่องจากกรอบระยะเวลานั้น เริ่มการเยียวยาตั้งแต่เดือน มี.ค. – ส.ค. 63 แต่ทั้งนี้ การเยียวยาจะได้รับไม่เกิน 90 วัน เพราะการปิดโรงแรมของแต่ละแห่งไม่เท่ากัน ซึ่งการประเมินเรื่องระยะเวลาในการเปิดให้บริการนั้น หลายโรงแรมก็คาดว่าจะทดลองเปิดในเดือน ก.ค.นี้ แต่อีกหลายแห่งก็คงปิดยาวจนกว่าจะถึงช่วงไฮซีซั่น เพราะคิดว่าเปิดในช่วงนี้ก็ไม่มีนักท่องเที่ยวและไม่คุ้มกับการเปิดโรงแรมในช่วงนี้ แม้ว่าจะมีการผ่อนปรนระยะที่ 3 แต่ก็ยังไม่เพียงพอ เพราะหลายคนคิดว่า หากเดินทางมาแล้วต้องกักตัว และจังหวัดเชียงใหม่ ก็ยังเป็นพื้นที่สีแดง เช่นเดียวกับกรุงเทพฯ พัทยา และภูเก็ต ที่ยังต้องเฝ้าระวังอยู่ คงต้องรอดูมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 4 อีกครั้งว่าจะผ่อนปรนได้มากน้อยแค่ไหน ก็อยากให้ผ่อนปรนเรื่องของการจัดประชุมสัมมนาตามโรงแรมได้ แม้ว่าจะไม่เหมือนปกติเพราะต้องเว้นระยะห่าง จากห้องหนึ่งอาจจะรองรับเมื่อก่อนได้ 200 คน ก็อาจจะเหลือเพียง 50 – 100 คน เพื่อลดความแออัด แต่ก็ยังดีที่มีการจัดประชุมสัมมนาได้ และไม่ต้องถูกกักตัว แต่อาจจะเป็นการเฝ้าระวังและติดตามในช่วงที่มีการพักอาศัยอยู่ที่ จ.เชียงใหม่แทน ซึ่งก็จะทำให้มีการเปิดประชุมสัมมนาในต่างจังหวัด และโรงแรมสามารถกลับมาเปิดเพื่อให้บริการหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน กลุ่มรัฐวิสาหกิจ และกลุ่มอื่นๆ ที่จะจัดสัมมนาได้ แม้ว่าจะไม่มีนักท่องเที่ยวเข้าพัก แต่จะเป็นอีกช่องทางหนึ่ง ที่จะกระตุ้นรายได้ให้กับโรงแรมได้เช่นกัน ช่วงนี้ก็คงต้องรอดูมาตรการผ่อนปรนครั้งที่ 4 เท่านั้นว่าจะออกมาเป็นอย่างไร

สำหรับกระแสเรื่องการขายโรงแรมและจะมีชาวต่างชาติเข้ามาซื้อนั้น จากการติดตามข้อมูลของสมาชิกสมาคม ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ยังไม่พบเรื่องของการขายโรงแรม และการขายให้กับชาวต่างชาติ แต่หากเป็นในจังหวัดอื่นก็อาจจะมีได้เช่นกัน เพราะในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ การแบกรับภาระเรื่องโรงแรมถือว่ามีความเสี่ยงสูง เนื่องจากรายได้ปัจจุบันนั้นเป็นศูนย์ ไม่มีรายได้เข้ามาแม้แต่ช่องทางเดียว